เชียร์ 51

ข่าวเด็ด

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

YPD ฉีกหน้า “หมัก-โกวิท” เลิกทำตัวเป็นหัวหน้าซ่องโจร



ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลสัตว์นรกใช้กำลังสลายกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมปกป้องเจ้าหน้าที่ เรียกร้องทุกฝ่ายหยุดการนำมวลชนเพื่อก่อให้เกิดการเผชิญหน้า

วันนี้ (31 ส.ค.) ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD) ออกแถลงการณ์เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรงและขอให้ทุกฝ่ายดำเนินการแก้ไขความขัดแย้งอย่างจริงจัง โดยมีเนื้อหา ดังนี้

สืบเนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้จัดการชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน และทำเนียบรัฐบาล นำมาสู่การใช้ความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้ายึดพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนเกิดเหตุการณ์ปะทะกันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายในวันที่ 29 สิงหาคม 2551 โดยในช่วงค่ำวันเดียวกัน จากการเดินขบวนของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อประท้วงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงและเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบความเสียหายหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้นได้เกิดการปะทะและยิงแก๊สน้ำตาจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

จากการลงพื้นที่เข้าสังเกตการณ์ตลอดทั้งวันของศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย และเครือข่ายประชาสังคมไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่งเป็นกลุ่มที่วางตัวเป็นกลางทางการเมืองและพยายามหาทางออกจากความขัดแย้งอย่างสันติมาโดยตลอด ได้พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการยิงแก๊สน้ำตาของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายรายอาการสาหัส โดยก่อนหน้านี้จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อช่วงกลางวันในวันเดียวกัน ผู้ชุมนุมบางรายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทุบตีด้วยกระบองจนบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้

ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD) สนับสนุนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองอย่างหลากหลาย โดยยึดแนวทางสันติวิธี คัดค้านการยั่วยุให้เกิดการใช้ความรุนแรงหรือกระทบกระทั่งกัน และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงระหว่างกันมาโดยตลอด มีความเห็นเพิ่มเติมต่อสถานการณ์และข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

1.ขอเรียกร้องให้รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยุติแนวทางการใช้กำลังและอาวุธเข้าสลายการชุมนุมทั้งหมด กระทั่งความคิดที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินฯ เพื่อเปิดทางให้ใช้กระบวนการทางการเมืองเข้าเจรจา การใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐในครั้งที่ผ่านมา ถือเป็นการก่ออาชญากรรมต่อพลเมืองอย่างหนึ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในยุคที่มีความเป็นประชาธิปไตย และหากแม้พฤติกรรมใดๆ ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นการเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือลิดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ก็สมควรถูกดำเนินการทุกอย่างไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ดังนั้น รัฐบาลจะต้องให้มีการสืบสวนสอบสวนกรณีที่เกิดขึ้น ใครเป็นผู้ยิงแก็สน้ำตาตามที่นายกรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามบิดเบือนและปัดความรับผิดชอบ เพื่อลงโทษผู้ที่มีส่วนในการสั่งการให้เกิดการใช้ความรุนแรงดังกล่าว และรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

2.เราขอเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะควบคุมไม่ให้เกิดการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นจากมวลชนของตนเอง ซึ่งอาจจะนำไปสู่ข้ออ้างของเจ้าหน้าที่รัฐในการใช้ความรุนแรงเพื่อปราบปรามการชุมนุมได้ สำหรับกรณีที่ถูกสังคมตั้งข้อกังขา เช่น การบุกยึดสถานีโทรทัศน์ NBT ซึ่งเข้าข่ายการลิดรอนเสรีภาพของสื่อมวลชน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยควรออกมาแสดงความขอโทษ พร้อมกับชี้แจงถึงเหตุผลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติการดังกล่าวที่ปรากฏออกมาตามสื่อมวลชนด้วย นอกจากนี้ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยควรพิจารณาหาทางปรับเปลี่ยนแนวทางการชุมนุมให้นำไปสู่การเจรจาหาข้อยุติร่วมกันกับฝ่ายรัฐบาล แทนการมุ่งเป้าหมายไปที่การกดดันขับไล่รัฐบาลเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้นำไปสู่ทางออกที่เกิดจากการพบกันครึ่งทางของทุกฝ่ายท่ามกลางวิกฤตการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง

3.เราขอเรียกร้องรัฐสภา โดยพรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา แสวงหาทางออกจากวิกฤติร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันจากทุกฝ่าย โดยไม่ฉกฉวยโอกาสทางการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตนในท่ามกลางวิกฤตความขัดแย้งในสังคมไทย ขอให้สมาชิกรัฐสภาและรัฐบาล ทำหน้าที่ในการเป็นผู้แทนปวงชนทั้งประเทศอย่างเป็นกลาง ปราศจากอคติทั้งปวง เพื่อหาทางออกจากวิกฤติความรุนแรงอย่างจริงจังและประกาศเป็นสัญญาประชาคม โดยมีผู้แทนจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รัฐบาล และตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ ร่วมเจรจาแสวงหาทางออก โดยใช้เวทีรัฐสภา

4.เราขอคัดค้านกองทัพ ให้ยุติแนวคิดหรือแนวทางที่จะนำมาสู่การก่อปฏิวัติรัฐประหารโดยการใช้กำลังทหาร ซึ่งไม่สามารถเป็นทางออกที่ดีแก่การพัฒนาประชาธิปไตยได้ ดังนั้น เราจะอาจยอมรับเหตุผลข้ออ้างของฝ่ายใดๆ ที่ต้องการให้มีการใช้กำลังทหารเพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมืองไทยได้ ไม่ว่าฝ่ายใด การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยจำเป็นต้องอาศัยการพัฒนาการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของประชาชนในสังคม มิใช่การใช้กำลังอาวุธข่มขู่ เข่นฆ่า เปลี่ยนมือผู้มีอำนาจโดยขาดซึ่งการพัฒนาทางความคิดและสำนึกความเป็นพลเมืองในสังคมประชาธิปไตย

5.เราขอเรียกร้องให้ผู้นำทางการเมืองและกลุ่มพลังทางการเมืองต่างๆ ยุติการนำกำลังมวลชน เข้าปะทะ ก่อความรุนแรง หรือคุกคามต่อร่างกายและทรัพย์สินระหว่างกัน ซึ่งจะนำมาสู่การขยายตัวของความขัดแย้งและความรุนแรงไม่สิ้นสุด

ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย (YPD) มีความหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาทางการเมืองไทยไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยอยู่บนหลักการสันติวิธีและกระบวนการวิถีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยเชื่อว่าปัญหาการเมืองไทย ต้องแก้ด้วยกระบวนการประชาธิปไตย

วิเคราะห์
ผมอยากจะทราบจริงๆว่าอะไรเป็นเหตุผลให้YODหันไปอยู่ฝ่ายพันธมิตร เนื่องจากเหตุการณ์ในการตอนไม่สามารถยุติได้ด้วยการเจรจาอีกแล้วตามความคิดเห็นส่วนตัวของผมเพราะสถานการณ์ตอนนี้เหมือนกับลูกโป่งที่มีลมอัดแน่นเต็มทีพร้อมจะระเบิดอยู่แล้วและนอกจากนี้ฝ่ายตำรวจเองก็โดนทำลายเช่นเดียวกัน ผู้สื่อข่าวก็ถูกข่มขู่อย่างหนักจากฝ่ายพันธมิตรตามที่รายงานก่อนหน้านี้

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจากhttp://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000102803

โดย นายรวมเลิศ สุภานันท์ 5131601165

พปช.หางโผล่! ลั่นผนึก นปก.ต้านพันธมิตรฯ โวม็อบนับแสน


ประชา ประสพดี

พลังประชาชนลอกคราบ! ขอร่วมแจมม็อบนรกป่วนกรุง ขึ้นเวทีสนามหลวงต่อต้านพันธมิตรฯ ทุกรูปแบบ คุยโวเกณฑ์คนร่วมขบวนนับแสนคน ยังอ้างสันติวิธีหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า

วันนี้ (31 ส.ค.) ที่ทำการพรรคพลังประชาชน นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ในฐานะแกนนำกลุ่มมหาประชาชนพิทักษ์ประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ส.ส.ของพรรคว่า ขณะนี้กลุ่มมหาประชาชนและประชาชนทั่วไปมีมติเอกฉันท์ที่จะออกมาร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ท้องสนามหลวง เพื่อเรียกร้องให้การเมืองกลับเข้าสู่ภาวะประชาธิปไตย และให้กำลังใจรัฐบาล รวมถึงสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ต้องไม่มีการยุบสภาหรือลาออก ไม่เช่นนั้นในอนาคตเมื่อกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่พอใจใครก็จะออกมาชุมนุมขับไล่ไม่รู้จบ ซึ่งจะส่งสัญญาณให้พลังเงียบออกมาเคลื่อนไหวสร้างความสมานฉันท์ร่วมกัน เพระได้เห็นแล้วว่าแม้รัฐบาลจะผ่อนปรน แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ยังฮึกเหิมไม่หยุด แม้แต่การขัดคำสั่งศาล ดังนั้นจึงต้องการจัดชุนนุมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและนำกลุ่มพันธมิตรฯ กลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

นายประชา กล่าวว่า การชุมนุมจะยึดแนวทางสันติ ไม่ใช้ความรุนแรงและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า โดยเชื่อว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมนับแสน และ ส.ส.พรรคพลังประชาชนบางส่วนจะร่วมขึ้นเวทีปราศรัยที่ท้องสนามหลวงด้วย ทั้งนี้ ในเวลา 12.00 น.วันที่ 31 สิงหาคมนี้กลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ จะเดินทางมารวมตัวที่หน้ารัฐสภา เพื่อให้กำลังใจและสนับสนุนการประชุมร่วม 2 สภาซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนได้ร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหา แต่จะไม่ปักหลักชุมนุมหน้ารัฐสภาและคิดว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นที่มั่นจะไม่เดินทางมาเผชิญหน้า

วิเคราห์
เดี๋ยวนี้ใช้คำว่า นปก.=นรกป่วนกรุง แล้วเหรอครับ
ไม่ไช่หมายถึงแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการเหรอครับ
แล้วคุณคิดอย่างไรกับคำกล่าวของนายประชาล่ะครับ?
โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่ากลุ่มพันธมิตรทำไม่ถูกต้องและเปล่าประโยชน์ เพราะว่าถึงแม้นายสมัคร สุนทรเวชจะลงจากตำแหน่งไปแต่กลุ่มพันธมิตรไม่ได้กล่าวต่อไปเกี่ยวกับอนาคตของรัฐบาลซึ่งควรจะมีใครมาเป็นผู้นำต่อไปเห็นได้ชัดว่ากลุ่มพันธมิตรไม่ได้สนใจอนาคตเลยดีแต่จะขับไล่รัฐบาลออกไปอย่างเดียวเท่านั้น กลุ่มนักธุรกิจและนักลงทุนต่างๆก็สนับสนุนรัฐบาลสมัยทักษิณและรัฐบาลชุดปัจจุบันเพราะทำให้เศรษฐกิจเติบโต
ผมอยากจะลองให้ท่านผู้มีปากอันงดงามท่านนั้นมาลองเป็นนายกรัฐมนตรีดูบ้าง จะได้รู้ว่าการบริหารประเทศไม่ไช่เรื่องที่ดีแต่จะปลุกระดม

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจากhttp://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000102788

โดย นายรวมเลิศ สุภานันท์ 5131601165

คำต่อคำ “หมัก” แหลด่าพันธมิตรฯ



รายการ “สนทนาประสาสมัคร” วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2551 เวลา 08.30 – 09.30 น. ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที



สวัสดีครับ สวัสดีครับท่านผู้ชมที่เคารพ วันอาทิตย์ 8 โมง 30 นะครับ วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม วันนี้ตอนบ่ายโมงครึ่งจะมีประชุมรัฐสภานะครับ เป็นการประชุมร่วมกันเพื่อจะแสดงความคิดเห็น คุณบรรหาร ศิลปอาชา ท่านบอก รัฐบาลก็เอาไม่อยู่ ศาลยังเอาไม่อยู่ เพราะงั้นสภาจะลองเอาดูบ้าง บ่ายวันนี้นะครับ ผมส่ง ทำหนังสือไปทันทีทันควัน รู้ปั๊บผมทำหนังสือไปให้เลย เปิดสภาวันนี้ และช่องนี้จะถ่ายทอดสด ถ่ายทอดสดนะ แล้วใครจะโทรศัพท์มาด่าเขาอีกมั้ยเนี่ยถ่ายทอดที่คุยกันในสภาฟังเนี่ย เพราะเขารายงานข่าวที่เกิดกับสถานีเขา โอ๊ย โทรมาด่าอธิบดี เออ แล้วไอ้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาถ่ายเอาไว้ได้ เป็นหลักฐานได้ จนกระทั่งเอาไปส่งตำรวจขึ้น ก็ส่งให้ศาลฝากขังศาล 82 คนนะครับ ปฏิบัติการอันนั้นน่ะ ให้ตัดทิ้งไปเหรอ ไม่มีเหตุนะครับ นั่นล่ะคือสิ่งที่เราทำตัวบทกฎหมาย เกินล้ำเส้นกว่าที่คนปกติจะทำได้ เป็นเรื่องร้ายกาจอย่างยิ่งเลยนะครับน่ะ แล้วก็ตามหลังกันมาน่ะ

ผมก็อยากจะชี้แจงเรื่องข่าวคราวเสียก่อน เดี๋ยวจะลืมชี้แจง คือเมื่อวานนี้ฟังข่าวดูแล้วทำไมถึง โห ต้องเล่าให้ฟังก่อนนะ จะพูดถึงสื่อเนี่ย หูย ผู้คนห้าม อย่าพูดถึง อย่าพูดๆๆ คือทุกคนเคารพสื่อกันหมด เหมือนกับผมเป็นคนไม่เคารพสื่อ ผมไม่ใช่ไม่เคารพสื่อหรอกครับ ผมต้องการให้สื่อเข้าใจเป็นอันดี และอย่าเหมาเอาเอง อย่าคิดเอาเอง เมื่อวานนี้ ผมก็จำเป็น เพราะว่าผมจะต้องอยู่กับที่โน่นเขา ผมเสร็จจากรับพระราชทานธง ผมก็ต้องรีบบึ่งไป เปลี่ยนเสื้อในรถ แล้วผมก็ไป ก็ไปพูดเปิด เปิดได้ 10 นาที พูดไม่เกินกว่านั่นหรอกฮะ แล้วก็จำเป็น ต้องบอกเขาว่าผม มีหมายให้ผมเฝ้า ผมก็จะไปเฝ้า ผมพูดไว้ชัดเจน ก่อนจะไปผมก็ประกาศไว้เลย ผมจะอยู่ ผมจะไม่เปลี่ยน ผมประกาศไว้ชัดเจน แล้วก็ผมก็ต้องบอกเหตุผลเขาว่าทำไมไม่อยู่กับเขา เพราะว่าจะต้องไปหัวหิน เท่านั้น ผมไม่เคยพูดกับใคร ไม่เคยนัดหมายกับใคร คิดกันเอาเอง เหมากันเอาเอง อ้างอิงกันเอาเอง แล้วยังไง ตอนไปก็มีถ่าย ลงจากรถก็ถ่าย จะขึ้นเครื่องบินก็ถ่าย เอ้า ก็เท่านั้นล่ะ ผมไม่ได้พูดกับใคร ไม่ได้แถลงเลยสักคำ ผู้คนผมก็ไม่ได้แถลง ไปคิดกันเอาเอง โอ้โห เอาเครื่อง เอารถโอบี ไปตั้ง นักข่าวไปรอกันเต็มหมด แล้วกลับมาไม่เจอผม สมัครเบี้ยว สมัครหนี สมัครหายตัว นัดแล้วไม่มา นัดจะแถลงข่าวแล้วไม่มาแถลง หลบไปไหนก็ไม่รู้ อย่างนี้เสียหายมั้ยครับ เสียหาย ผมเสียหายอย่างยิ่ง ไปคิดกันเอาเอง ไปคาดการณ์กันเอาเอง แล้วจะมาโยนให้ผม ไม่มีวันล่ะครับ คนอย่างผม ผมต้องใช้โอกาสแรกที่สุดชี้แจงเลยว่า ทีหลังกรุณาหน่อย อย่าคิดเอาเอง ว่าไปเฝ้าแล้วจะต้องกลับมาแถลง ไม่มีเหตุผลหรอกครับ ผมเป็นนายกฯ เนี่ยผมเฝ้ามาแล้ว 10 หน ผมเคยแถลงหลังจากเฝ้ามั้ยครับ ธรรมเนียมเขาไม่มีหรอกครับ เขาไม่มีธรรมเนียมว่าไปเฝ้าเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินแล้วเอามาบอกไปพบว่ายังไง ไม่หรอกครับ 10 กว่าครั้ง 10 ครั้ง ผมไม่เคยแถลง แล้วคุณไม่เคยสังเกตเหรอครับว่ามันเป็นยังไง แล้วทำไมถึงจะไปเฝ้าแล้วต้องมาแถลง ไม่คิดเหรอครับ แล้วจะบอกให้คิดลึกไปอีกสักนิดเท่านั้นเองว่า ก็เมื่อวานนี้มันวันเสาร์ วันนี้วันอาทิตย์ ผมจะไปทำอะไรมา ผมไปแถลงแล้ววันนี้ผมจะพูดเรื่องอะไร นี่ผมไม่ได้ตำหนิว่าไม่มีความคิดหรอกครับ แต่อย่ามั่ว อย่าเหมา

กลางคืนก็เหมือนกัน ผมไปถึงหัวหิน เขาจะประชุมกัน ท่านคุณหมอสุรพงษ์ กับคุณสมชาย จะเป็นตัวแทน ทุกคนเขารู้หมดทั้ง 6 พรรค เขารู้ เขาจะกินข้าวกัน เขาจะปรึกษาหารือกันว่ายังไง ในรายการเขาไม่ได้คิดว่าผมจะไปเลย ไม่ได้นึกว่าผมจะไป แล้วทำยังไงครับ แล้วผมกลับเข้ามาเนี่ย บอกมีคนไปปิดหน้าประตูบ้าน หน้ารั้ว ไปสวดมนต์ปิดซอยเข้าบ้าน ชาวบ้านก็ด่าผมพึมไปเลย แต่ยังมีข่าวอีก จะยกขบวน จะไปล้อมบ้านผม จะไปกดดันที่บ้านผม พอเขาส่งข่าวมาผมก็บอก แล้วยังไง จะกดดัน จะกดที่ประตู หรือกดที่หลังคา จะกดดันผมน่ะ จะเอาไป ก็ เรื่องนั้นไม่ทราบ กำลังหนึ่งมีอะไรเปลี่ยนแปลงไม่ทราบก็เลยตกลงไม่ไป

ทั้งหมดนี้ก็บอกไอ้เรื่องปลายเหตุให้ฟังเสียก่อนว่า สื่อน่ะเป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งบ้านทั้งเมือง แล้วผู้คนก็กลัวเกรงสื่อกันไปหมด ผมยืนยันว่า แม้แต่คนกวาดตลาด ก็ไม่กล้ามีเรื่องกับสื่อ ผมเคยถามว่าแล้วเป็นไง คุณดังขนาดไหน ยังไง กลัว อู๊ยอย่าเลยครับ เดี๋ยวผมเป็นข่าวหนังสือพิมพ์ คนกวาดตลาดยังกลัวเลยครับ เขาก็คาดการณ์กันด้วยว่านายกรัฐมนตรีต้องกลัวด้วย ผมไม่มีเหตุผลหรอกครับ

ผมจะเล่าให้ฟังนะ สมัยผมหนุ่มๆ ผมเป็นประธานปาฐกถาโต้วาที ที่ปรึกษาผมที่เป็นประธานจริงก็คือท่านอาจารย์จินตนา ยศสุนทร ผมเป็นโต้วาที 3 ปีติดต่อกันน่ะ ปี 04 ปี 05 ปี 06 ผมทำหน้าที่ของผม เรียบร้อยนะครับ แต่ว่าที่จะเล่าให้ฟังก็คือว่า โต้กันไปไอ้โน่นไม่ดี บ้านนอกดีกว่าในกรุง ไอ้โน่นดีกว่าๆ จนเบื่อ ผมก็ตั้งญัตติใหม่ ญัตติมาทันสมัยครับ แล้วมีคนเถียงกัน เช่นว่า โต้วาทีเรื่อง "ความสวยเป็นภัย" เอ้อ จริง ไม่จริง ความสวยเป็นภัย อ๊ะ เถียงกันสนุกเลยครับ ความสวยเป็นภัย ต่อมาผมก็ตั้ง "ความกลัวทำให้เสื่อม" ความกลัวทำให้เสื่อม นี่ล่ะครับวันนี้ที่จะต้องพูดกันวันนี้ล่ะครับ เรื่องของความกลัวนี่ล่ะครับที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหายกันเนี่ย

ความกลัวทำให้เสื่อม ความกลัวทำให้เสียหาย ผมจะถามสิครับว่าคนหยิบมือหนึ่งไปยึดสนามบินภูเก็ต อาวุธไม่มี ยึดสนามบินภูเก็ต ไปนอนขวางรันเวย์ ผมจะถามว่าไอ้ รปภ.น่ะจ้างไว้ทำไมครับ รปภ.ที่สนามบิน ไม่มีผู้ก่อการร้าย ไม่มีอาวุธ ไม่มีปืนเลย มีก็ไอ้คนพวกนี้ เขาบอกเขาอหิงสา ไม่มีอาวุธอะไรต่างๆ แล้วปล่อยคนพวกนี้ไปปิดสนามบินภูเก็ต ปิดสนามบินพังงา ปิดสนามบินหาดใหญ่ มันไหวมั้ยครับอย่างนี้ นี่ล่ะครับคำตอบของไอ้ความกลัวทำให้เสื่อม เสื่อมเสีย เสื่อมเสียครับ เครื่องบินลงไม่ได้ 16 เที่ยว นักท่องเที่ยวมันกระจายไปทั่วโลกหมดเลยครับ หนังสือพิมพ์ก็ประโคมข่าว ประโคมข่าว ไอ้แก๊สน้ำตาอะไรต่างๆ นั่น มันเป็นไปได้มั้ยครับว่าคนไปล้อมหน้าโรงพักตำรวจยิงแก๊สน้ำตาออกมา ไอ้บ้าที่ไหนมายิงก็ไม่รู้ ก็กำลังสอบกันอยู่ ตำรวจก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำอย่างนั้น แต่ข่าวออกไปแล้วครับ หนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น โอ้โห พาดหัวตัวเท่าหม้อแกง ความลุกลามแผ่ไปทั่วประเทศ แผ่ออกจากกรุงเทพฯ กลายเป็นทั่วประเทศ ตำรวจเริ่มใช้แก๊สน้ำตา

แล้วทำไม ข่าวก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ วิ่งกันเอาน้ำเอาอะไรต่างๆ ไอ้ใครไปทำก็ไม่รู้ แต่ไม่ใช่ตำรวจ มือที่สามมั้ยครับ ก็กำลังจะดูอยู่ว่าเป็นใคร ตำรวจจัดการตรวจสอบหมด มีไอ้คนใส่เสื้อขาวไปยืนตรงนั้น เกิดเหตุตรงนั้น ใช่หรือไม่ใช่ยังไม่รู้ แต่มีคนเอาใส่ เอาน้ำล้างหน้า หูย ถ่ายกันตลบอบอวล เอาภาพมาประกอบ แล้วผมที วิจารณญาณมันอยู่ที่ไหนครับ ถ้าเหตุมันเกิดจริงจะลงข่าวก็ลงกัน แต่เหตุยังสอบสวน อะไรกัน อะไรก็ยังไม่รู้ได้ แต่ออกไปทั่วโลกแล้วครับ ออกไปหมดแล้ว สถานการณ์เลวทราม แล้วคิดสิครับว่าบ้านเมืองนี้ได้รับโหวตว่าเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลก แล้วถามสิครับว่าใครมาทำลายเรื่องนี้ เมืองที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลก ทั้งความไว้วางใจ ทั้งอาหารการกิน ทั้งการพักการผ่อน ความปลอดภัยทั้งหลายทั้งปวง แล้วอยู่ดีๆ ล่อกันอย่างนี้

ผมต้องเล่าถึงสารเหตุที่มา เขามีนี่ครับ ตั้งแต่ก่อนปฏิวัติ เอ้าปฏิวัติแล้วก็กลายเป็นปฏิวัติเอามา ถูกต้อง จบ มีเลือกตั้ง เลือกตั้งก็มา ก็ไม่ยอมจบนี่ครับ อดีตนายกฯ ยังโผล่หน้าเข้ามาได้ เอ้าฟันกันไป เอากันจนกระทั่งก็ไหนว่าให้ขึ้นศาล เขาโดนศาล เขาก็ต้องหา ต้องถอยไปตั้งหลักข้างนอก ก็ควรจะยุติกันตรงนั้น แล้วผมก็ทำหน้าที่ของผมอยู่ตรงนี้ ไปๆ มาๆ นึกยังไงล่ะครับ คนกลุ่มหนึ่ง ก๊กหนึ่ง เคยมีประวัติดำเนินการจุดชนวนมาแล้ว มาเลย ก๊กเดิมเลย 5 เสือมาอย่างเดิม มีไอ้ที่ปรึกษาอีกคนมา แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาลงมือ ดำเนินการกันอย่างที่เห็นครับ คอยจ้องหาเหตุ พอจะแก้รัฐธรรมนูญพัวะ ก็มาป้องกันรัฐธรรมนูญ ว่าแก้ไม่ได้นะ โดดมาเลยครับ 25 พฤษภาคม เอาเลยทีเดียว เริ่มต้นกันที่หน้าโรงเรียนสตรีวิทย์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ลากกันมา มีคนเข้าไปแหย่ตรงท้ายขบวนเข้า เลยมายึดสะพานมัฆวานฯ แล้วก็ยืดเยื้อ

แล้วผมทำยังไง ผมไม่ได้กลัวนะครับ แต่ผมเกรงว่าบ้านเมืองจะเสียหาย เพราะเขาต้องการให้ปะทะ ภาษาฝรั่งเขาบอกต้องการให้มัน spark ใครจะยิงปืนขึ้นมา ตำรวจเอากระบองฟาดหัว นิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้ ยิ่งเห็นเลือดเห็นอะไร เขาหวังต้องการอย่างนั้น แล้วก็จะให้มันเกิดจลาจล แล้วก็หวังว่าทหารจะปฏิวัติยึดอำนาจอีก แต่ว่าบทเรียนที่มันเกิดขึ้นกับบ้านเมืองนั้น เราได้แก้ไขปัญหานี้แล้วครับ เราแก้ไขปัญหานี้แล้ว ผมมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นพลเรือน ทำงานกับกระทรวงกลาโหมมา 7 เดือนแล้วครับ แล้วถามสิครับว่าแม่ทัพนายกอง ผมต้องไปทำอะไรครับ ผมทำงานตามปกติธรรมดา ผมประชุมสภากลาโหมเมื่อวานซืน ผมไม่เคยพูดสักคำว่าทางทหารมาช่วยหน่อย ช่วยจัดการหน่อย ผมจะรับมือไม่ไหวแล้ว สักคำก็ไม่ได้พูดครับ สักคำก็ไม่พูด บอกวันนี้เห็นจะต้องใช้ห้องรัฐมนตรีกลาโหม หนังสือเซ็นตั้งท่วมหัว

เลิกประชุมแล้วผมก็ไปนั่งเซ็นหนังสือ เซ็นไปผมก็คิดไปว่าผมควรจะต้องแถลง แล้วผมก็มาแถลง ผมแถลงครั้งที่ 1 ผมแถลงครั้งที่ 2 ผมพูดเยอะไม่ได้หรอกครับ แต่คนอื่นที่พูดมี ก็คนพวกนั้นได้ดำเนินการ บอกอหิงสา อหิงสา เสร็จแล้วไปๆ มาๆ เลือกวัน ภาษาฝรั่งว่า ดีเดย์ วันที่ 26 เช้าตั้งแต่ตี 5 ผมก็ฟัง แต่ผมมอนิเตอร์ฟังตั้งแต่ตี 3 ตื่นมาสวดมนต์ สวดพร เอาฤกษ์พระนเรศวร ฤกษ์ยกทัพ แหม มีสวดทำพิธีกัน ก็เอา ก็ฟังดู แล้วถามว่าคน 5 คนนั้นเป็นใคร 6 คนที่ว่านั่น เป็นใคร รู้ชื่อเสียงเรียงนาม รู้ประวัติ รู้ความเป็นมา แล้วยังไง ลุกขึ้นมาจะจัดการล้มล้างรัฐบาล ล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ถูกต้องตามกฎหมาย ประกาศจะล้มรัฐบาล บังคับให้นายกฯ ลาออก วันนี้บังคับให้คณะรัฐมนตรีทั้งหมดลาออก ข้อต่อรองคือต้องออกอย่างเดียว แล้วอหิงสา อหิงสา คาดหน้าคาดตาเข้าไป ไปถูกจับได้ในสถานี 82 คน ส่งไปให้ศาล แล้วเวลานี้ก็ขังไว้ดำเนินคดี

เห็นมั้ยล่ะครับ มีภาพให้ดูเสร็จเรียบร้อย ตอนเช้ามืดมีคนมาบอกโอ๊ย ภาคเมคอัพ ทำอย่างนั้นจะนั่นกัน แล้วผมไม่บ้าสื่อถึงขนาดนั้น แต่บ่ายๆ เรียกร้องบอกให้ปล่อยตัว เอ้าอีกรายมาให้ปล่อยตัว เห็นมั้ยครับ แล้วยังไง คนก็นั่งดูอยู่ แล้วก็รุกล้ำกัน ที่นั่งดูอยู่ก็คือว่าที่มันน่ากลัวก็คือว่า ทำไมผมต้องไปเอ่ยถึงสื่อ เพราะสื่อรายงานข่าว ผมบอกสถานการณ์อย่างนี้รายงานข่าวเท่ากันบ้านเมืองก็เสียหายแล้ว ที่รายงานรัฐบาลครึ่ง รายงานทางผู้เคลื่อนไหวครึ่ง ผมบอกบ้านเมืองเสียหาย ผมมีสิทธิ์ออกความเห็นอย่างนี้ครับ ผมไม่ได้เรียกร้องให้สื่อมาเข้าข้างรัฐบาล แต่ผมบอกเลยว่าถ้ารายงานตรงไปตรงมา ครึ่งที่รายงานครึ่งโน้นก็ทำให้บ้านเมืองเสียหายแล้ว แต่เขาก็รายงานเกินกว่าครึ่ง โห ถ่ายทอดสดกันอะไรมา ไอ้สถานีช่องที่จะเอาปีละ 2 พันล้าน นั่นล่ะครับ แจ๊บๆๆๆๆๆ

เมื่อตอนเขาพระวิหารก็ทีแล้วนะครับ กำลังตึงเครียดเขาพระวิหาร แหม ไปพนมเปญ ไปสัมภาษณ์ สัมภาษณ์ทหาร สัมภาษณ์พลเรือน สัมภาษณ์ให้คนเขมรด่าคนไทย นี่ล่ะครับไอ้ช่อง 6 นี่ล่ะครับ นั่นล่ะเอาปีละ 2 พันล้านนั่นล่ะครับ แล้วงานนี้เป็นไงครับ โอ้โห รายงานทำไม่รู้ไม่ชี้ รายงานกันถี่ยิบ ให้คนรู้ว่าอะไรเป็นอะไรยังไง เห็นมั้ยครับ เห็นมั้ยไอ้รายการสัมภาษณ์ ตอบโจทย์ตอบอะไรนั่นน่ะ โอ้โห ใครจะพูดดี ถ้าเข้าข้างทางรัฐบาลปั๊บเลิกทันที แต่ว่าถ้าเผื่อว่าพูดจาด่าก็ไปได้ยาวหน่อย ทำไมจะดูไม่ออกครับ

นั่นล่ะครับไอ้ปากแคบกับปากกว้าง 2 คนนั่นน่ะ โอ้โห พูดจาทำหน้าทำตา หน้าแหกตาแหก เข้าเลย ทางสำนวนใหม่เขาเรียกว่า "อิน" อินเต็มที่เลย เหมือนมีส่วนได้เสียเลยเชียวครับ ผมต้องวิจารณ์ครับอย่างนี้ แล้วเป็นไง NBT ถูกด่า บอกว่าฉายแต่ไอ้ข่าวที่เกิด อ้าว แล้วไอ้คนที่ยังไม่ได้ดูล่ะ ไอ้ CNN ออกยันทั้งวัน 24 ชั่วโมง ไม่มีใครด่า CNN เลย พอ NBT ออกบ้าง โดนด่า หาว่าเอาข่าวย้ำ แล้วถ้าท่านเป็น NBT จะรู้สึกยังไงมั้ยครับเนี่ย มีคนปิดหน้า เอาปืน เอามีด เข้ามาจัดการ ข่มขู่กันทุกทาง ถามสิครับนักข่าวที่นั่น ถามตวงพร อัศววิไล ถามสร้อยฟ้า โอสุคนธ์ทิพย์ ถามสิ ปากสร้อยปากสั่น เขาโดนน่ะครับ ไอ้ที่ไม่โดนเป็นไง แล้วถามกิตติ สิงหาปัด สิครับเป็นไงมั้ย เข้าไปดูเหตุการณ์ถ่ายรูปดีๆ ก็ไปนั่งตัวสั่นในรถแท็กซี่ เขย่ารถแท็กซี่ ใคร จากไหน ทำอะไรกันอย่างนี้ครับ เดินถือไม้ถือตะบองกัน หน้าตาถมึงทึงจัดการ สุดท้ายก็บุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล เข้าไปเลยก็ประกาศชัยชนะแล้ว

แล้วเวลานี้ทำเนียบรัฐบาลเป็นยังไงครับ สกปรกเลอะเทอะ โอ๊ย นายกรัฐมนตรีจะมาเอาแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เรื่องสกปรกเลอะเทอะ เรื่องใหญ่บ้านเมืองไม่จัดการ จัดการครับ แต่ว่าผมจัดการผมต้องไม่แถลง มันเป็นเรื่องของภายในดำเนินการ แต่ผมต้องพูดในสิ่งที่เมื่อวานนี้ประกาศแล้วนี่ครับ จะเปิดกันแล้ว ไขประแจ 15 นาทีเปิดได้แล้ว จะพาพวกนั้นเข้าไปชมในตึกทั้งหมดเลย ในห้องรับแขกเมืองก็จะพาเข้าไป ทุกคนเราเป็นเจ้าของบ้านเมืองจะต้องเข้าไปชม เข้าไปหมดเลย แล้วก็ทั้งหมด ห้องสีม่วง ห้องสีงาช้าง จะต้องเก็บเอาไว้ให้ 5 คน มาประชุมกันเท่านั้น

ท่านพี่น้องทั้งหลายครับ บ้านเมืองเราเกิดอะไรขึ้นกำลังนี้ครับ คนพวกนี้เป็นใครยังไงนั้นผมจะไม่นั่งซักถาม คนที่เขาปลุกระดมกันไว้ พูดจากันไว้ ใช้โทรทัศน์ 24 ชั่วโมง แบบเรียลลิตี้โชว์ ด่ากันมาครึ่งปีนั้น ผลมันต้องออกมาครับ ที่มากัน หน้ามืดกันมา ที่นั่งกันอยู่นั้น เช้าก็นั่งแต่งหน้าทาปากอยู่ที่นั่น ฝนตกก็ฉ่ำแฉะกันตรงนั้น กั้นรั้วอาบน้ำกันตรงนั้น มันกลายเป็นภาพ เข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาล นึกว่าผมจะอาย ผมไม่อายหรอกครับ ผมอายแทนคนที่ทำพวกนั้นครับ ยึดทำเนียบรัฐบาลแล้วเป็นไง รัฐบาลต้องแพ้ รัฐบาลต้องประกาศลาออกเหรอ ไม่ครับ ไม่ใช่ตัวบทกฎหมาย วันนี้สิครับ บ่ายโมงครึ่งวันนี้ เขาไม่ลงมติ ผมก็จะไปฟัง เสร็จแล้วผมก็จะชี้แจง เป็นเวทีที่ดีที่สุด ที่บางครั้งผมต้องขอบคุณคุณบรรหารอีกครั้งนะครับที่ท่านนึกถึงเรื่องนี้ไป ท่านบอกรัฐบาลก็เอาไม่อยู่ ศาลยังเอาไม่อยู่ สภาจะเอาวันนี้ บ่ายโมงครึ่ง ผมเซ็นหนังสือให้ทันทีเลย ขอเปิดทันที นี่ล่ะครับวันนี้จะพูดกัน จะถ่ายทอด ถ่ายทอดยาวนาน แล้วถ้า 24 ชั่วโมงจะมีใครโทรมาด่า NBT มั้ยครับเนี่ย จะเป็นเวทีที่พูดจากันได้ชัดเจน คนที่จะพูดมี 150 + 480 ทุกคนจะแสดงความคิดเห็น วันนี้จะได้ดูเลยเชียวครับว่าใครจะแสดงความรู้สึกนึกคิดของใครยังไง ซึ่งเป็นสิทธิตามสิทธิเสรีภาพ

แต่วันนี้ถ้าพูดกันตามสำนวนชาวบ้าน วันนี้จะได้ดูเลยเชียวครับ ทุกคนจะนุ่งผ้าขาวม้ากันมา ผู้หญิงก็จะแต่งกระโจมอกกันมา วันนี้จะได้ดูกันเลยว่าใครนุ่งกางเกงชั้นในสีอะไร ใครจะแสดงความคิดอะไรจะได้รู้กันวันนี้เลยครับ ใครจะเข้าข้างใครยังไง ได้เลยครับ ได้เลย เพราะเขาประกาศตัว 30 คน วุฒิสมาชิก ขึ้นเวทีไปแล้ว สมาชิกพรรคฝ่ายค้านใหญ่บางคนก็ขึ้นไปปราศรัยแล้ว เมื่อคืนนี้ก็ขึ้นไปแล้ว แปลว่านี่บ้านเมืองนี้ฝ่ายนั้นมีโอกาสจะชนะ ถูกมั้ยครับเนี่ย ฝ่ายปฏิบัติการที่สั่งให้รัฐบาลออก นายกฯ ลาออกจะมีความเปลี่ยนแปลง จะต้องมีการใหม่ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่เหรอครับเนี่ยตกลง เตรียมสภาร่างฯ ไว้หรือยังครับเนี่ย ไอ้ 70:30 ที่จะว่าเนี่ย ทำไมคนเป็นนักการเมืองไม่มีความคิด ทำไมถึงหลงใหลใฝ่ฝันกับไอ้เรื่องที่พูดจากันแบบ นักวิชาการก็บอกมันเป็นไปไม่ได้ ใช้ไม่ได้ ผมก็ต้องยืนยันตัวบทกฎหมาย แต่ทำไมหลงใหลใฝ่ฝัน ที่ผมเจ็บช้ำน้ำใจจริงๆ คือบรรดาสมาชิกสหภาพแรงงาน รถไฟยื่นใบลา ยื่นใบลา 2 วัน มีกฎหมายรองรับเสร็จเรียบร้อย ให้รถไฟหยุด แล้วก็เอาข่าวมาประโคมกัน เสร็จแล้ว ขสมก.ก็หยุด สหภาพการบินไทย นี่ล่ะครับ คุณแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประกาศเลยเชียวครับ ผมบอกนี่ไม่มีความคิดกันเลยหรือยังไง มันอะไรกันนักหนา มันจะได้หน้าได้ตายังไง พรุ่งนี้เขาจะเป็นรัฐบาลใหม่แล้วใช่มั้ย แล้วพรุ่งนี้จะอยู่กันยังไง แล้วถ้าเผื่อจดชื่อจดเสียงที่เคลื่อนไหวกันไว้ สิทธิสหภาพฯ แต่จะทำลายบ้านเมืองด้วยวิธีนี้เหรอครับ

ผมต้องเรียกร้อง ผมถึงว่าความกลัวทำให้เสื่อม คือไอ้คน รปภ.ที่ภูเก็ต ที่จ้างไว้เนี่ย ไอ้ความกลัวอันนี้ล่ะครับที่ทำให้เสื่อม เขาไม่มีอาวุธ เขาเป็นนั่นต่างๆ ต้องเอาเขาออกมาครับ สนามบินต้องทำงานได้ จ้าง รปภ.ไว้เพื่อการนี้ จ้างไว้ป้องกันเพื่อผู้ก่อการร้าย ซ้อมแล้วซ้อมอีก แต่ไอ้คนที่มันทำอย่างนี้ไปกลัวกันหมด นี่มันเรื่องของความกลัว แล้วเสียมั้ยครับ เสีย เครื่องบินต่างประเทศ 16 ลำ ลงไม่ได้ ผมจะขอบคุณประเทศไต้หวันนะครับว่าเขาเนี่ย เขาแถลงสั้นๆ เมื่อเช้าฟังวิทยุ เขาบอกนักท่องเที่ยวเขาติดอยู่ 400 แต่ว่าเขาจะไม่ระงับมาหรอก เพราะเขารู้ว่าเหตุอะไรมันเกิดขึ้นยังไง แต่จะมีกี่ประเทศที่คิดแบบไต้หวัน คนติดอยู่ 400 กลับไม่ได้นะครับ แต่บอกนักท่องเที่ยวยังจะเดินทางตามปกติ เพราะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เหตุเกิดขึ้นยังไง อ้อ ก็ต้องขอบคุณที่เขาช่วยคิดในทางดี

แต่คนอื่นๆ ล่ะครับ เขามีสิทธิ์จะกลัวเขามีสิทธิ์จะเกรงมั้ยครับ เสียหายมั้ยครับ ธุรกิจโรงแรมอะไรต่างๆ ที่เขากำลังเริ่มจะบุ๊คกันเนี่ย เดือนตุลาฯ ที่จะถึงนี่ก็คือไฮซีซั่น กำลังนี้ไอ้โลว์กำลังจะหมดไป กำลังดำเนินการ แล้วใครเขาจะกล้าบุ๊ค ใครเขาจะมา ธุรกิจท่องเที่ยวที่จะมาถึงมันเสียหายยังไงครับ แล้วคนพวกนั้นน่ะ ผมอยากจะถาม ทุบหม้อข้าวตัวเองมั้ยครับ

เอาล่ะถ้าจะมีกำลังอำนาจ มีกำลังอาวุธอยู่ข้างหลัง จัดการยึดรัฐบาลนี้ไปได้ แล้วถามสิครับว่าไอ้ที่ทุบหม้อข้าวตัวเอง ปิดสนามบินทำอะไรต่ออะไรหมดเนี่ย ไปพูดกับใครเขาที่ไหนครับ ไปพูดกับใครเขาที่ไหน แหม เปรียบเทียบเลยเท่ากับบาทิสตาร์ เที่ยวเทียบ แหมไอ้บรรดาสื่อทั้งหลายทางโทรทัศน์ก็เทียบ นักวิชการก็มาเทียบเคียงกันอย่างโน้นอย่างนี้ มันไม่ใช่เรื่องจะต้องเทียบอะไรหรอกครับ คนไม่มีสถานะอะไรเลย เอาความเกลียดชังมาตั้ง สำคัญแต่เกลียดคนก่อนก็เกลียดไป แต่มาเกลียดผมด้วย จะมาเอาผมด้วย จะพยายามโยงใยให้ถึง ผมก็สิทธิ์พิสูจน์ว่ามันไม่ใช่ ผมมีหน้าที่ของผมก็ดำเนินการ ผมจะบอกให้ฟังนะครับ ข้อกล่าวหาที่กล่าวหามาเนี่ย นี่ผมปกติจะไม่ค่อยเอา ที่จะต้องเขียนข้อความมาหน่อย เพราะผมไม่อยากให้หลงทาง ผมจะบอกให้ฟังว่าผมเป็นรัฐบาลที่มาด้วยความถูกต้องตามกฎหมาย เลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคม ทั่วโลกรับรองคุณภาพทั้งหมด แม้ กกต.จะดำเนินไม่เสร็จ แต่ก็บริหารบ้านเมืองมา 7 เดือนครับ ผมเป็นรัฐบาลที่มาด้วยถูกต้องตามกฎหมาย นี่ผมบอกให้ชัดเจน

ผมไม่ได้ทำความผิดเรื่องที่มากล่าวหา เรื่องทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง ยังเลยครับ 7 เดือน ก็ตามตรวจสอบดูสิครับ จะผิดจะถูกยังไงก็เอาสิครับ นี่หยิบทุกประเด็น แม้กระทั่งจะทำรัฐสภาใหม่ ก็เอาเรื่องเข้ามาใส่ ทุกเรื่องหมด มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับเรื่องการเงิน ก็เอามาจัดการ เอาพระราชดำรัสมาอ้าง แล้วเอามาซึ่งสภา เล่นกันหมดนะครับ

นายพลเอกคนหนึ่งทำหนังสือกราบบังคมทูล เคยฟังแล้วนะครับ แต่โปรดเกล้าฯ เรื่องนี้เป็นเรื่องภายใน ทางไหนจะยังไงก็ตามแต่ ไอ้คนเขียนจดหมายที่เป็นพลเอกเก่าเนี่ย เคยดูมั้ยครับว่าไอ้รูปร่างที่เขาจะให้ 200 กว่าที่นั่นรูปร่างเป็นยังไง ท่านเคยเห็นรูปแผนที่อเมริกาใต้มั้ยครับ ที่เป็นขาเนื้อวัวน่ะ ปลายเล็กทางนั้นใหญ่น่ะ นั่นน่ะไอ้โคนมันอยู่ติด ถ.ติวานนท์ ปลายเนี่ย 140 เมตร ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เหมือนทวีปแอฟริกาใต้นะ แล้วตัดไอ้ตรงแหลมฮอร์นออกซะหน่อยตรงนั้น นั่นล่ะครับที่ๆ เขาจะให้มาทำ แล้วมันเป็นไงมั้ยครับ ริมน้ำ อยู่ปากเกร็ด นนทบุรี กับไอ้ที่ตรงนี้ซึ่งสมาคมสถาปนิกสยาม บอกชิ้นนี้เป็นชิ้นที่ดีที่สุด ทีแรกประมาณไว้ 119 จริงๆ แล้วได้ 130 เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขยายถนน ถอยตรงนั้นให้กว้างขึ้นมาอีกหน่อย ถนนทางขวามือนั้นกว้าง 6 เลน จะมีสะพานข้ามแม่น้ำจากฟากกระโน้นซึ่งมีโครงการอยู่แล้ว แล้วก็จะเป็นรัฐสภาซึ่งอยู่ริมน้ำ อยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางอะไรต่างๆ เขาลงมติอย่างนั้น ทุกอย่างเขาก็ทำของเขาเตรียมการ โอย ไปๆ มาๆ หยิบเอาประเด็นชิ้นนี้เอามากล่าวหา

นี่ถัดไปนะ เนี่ยกล่าวหาว่าไม่เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ไปกล่าวหาคนอื่นยังไง จะใส่ไคล้เขาจนเขาจะตายทั้งไป ว่าไป แต่ผมนะ ผมยืนยันว่าไม่ได้หรอกครับ คุณไม่มีสิทธิ์มาทำอย่างนี้กับผม แล้วผมไม่มียอมให้ใครมาชี้หน้าผมทำอย่างนี้เลย ผู้คนที่อยู่ในแวดวงด้วย 35 คนที่เป็นรัฐมนตรีร่วมคณะ ผมทำให้มันเกิดเหตุในนั้นยังไม่ได้หรอกครับ คนนึงไม่ได้ ผมต้องดูทั้งหมดทุกคน นโยบายทั้งหมด นอกจากไม่ได้เป็นอย่างกล่าวหา ผมยังเคารพเทิดทูนป้องกันยิ่งกว่าคนอื่นๆ ทำด้วย แล้วมานั่งกล่าวหาผมว่าจะล้มล้างสถาบัน หลับหูหลับตาพูดนะ

นี่ถัดไปบอกว่า ที่กล่าวหาตั้งแต่นั้นมันไม่มีเหตุผล ไม่มีเหตุผลในการกล่าวอ้าง ท่านลองคิดสักหน่อย เป็นกลุ่มคนที่ไม่ชอบก็ลุกขึ้นมา ถัดไปนี่ๆๆๆ มีการลุกล้ำเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ มาตรา 63 ล้ำมาตรา 63 มาอยู่ที่ราชวินิต เอ้าเด็กเอาไปฟ้องศาล ศาลท่านไปทางโน้น พอถึงมัฆวานฯ พอทางราชการไปฟ้อง เขาไปหักล้างกันศาลก็ต้องยอม ดูสิครับ สุดท้ายศาลมีคำสั่ง ศาลแพ่งมีคำสั่ง 4 ทุ่ม บอกให้เคลียร์ถนนราชดำเนิน ก็มาทำอย่างนี้ไม่ได้ เสร็จ รุ่งขึ้นเราก็หมายคดีบังคับ 20 คน เอาตำรวจไปจัดการ รื้อถอนอะไรต่างๆ ก็มาต่อต้าน กระทบกระทั่ง โอ๊ย หาว่าทำรุนแรง พอเอาเสร็จหมดเรียบร้อยก็ไปถึงตรงนั้นเสร็จ เขาก็ไปร้องศาลบอกขอบรรเทา ศาลให้บรรเทา ศาลบรรเทา ข่าวออกมาว่ายังไง ศาลอนุญาตให้ปลุกระดม คือเหมือนว่าให้ยึดทางนั้นต่อไปได้ ทำอย่างนั้นต่อไปได้ ฟังแล้วเป็นไงครับ ใจผมน่ะตกไปอยู่ที่ข้อเท้าเลย บอก อีกแล้วเหรอเนี่ย อีกแล้วเหรอเนี่ย นี่เคราะห์ดีนะครับที่ขออุทธรณ์ไปเรื่อง 9 คนนั่น ศาลยก ไม่นั่น

แต่ว่าอันที่เขาจะปลุกระดมตรงนั้น สั่งให้ออกจากนั่นแล้ว เรามีเวลาไม่กี่ชั่วโมง จัดการให้เสร็จ สั่งไปแล้วครับ ให้ระงับแล้ว คือให้ปลุกระดมต่อไปได้ในพื้นที่ดังว่า

แล้วราษฎรตาดำๆ อย่างผมจะรู้สึกยังไงครับเนี่ย จะรู้สึกยังไงครับ เมื่อเวลา ASTV ขอร้องศาลปกครอง ขอคุ้มครองที่จะออกอากาศ ศาลปกครองให้ความคุ้มครอง เวลานี้ผมร้องศาลปกครอง ศาลปกครองบอกสั่งเอกชนไม่ได้ อ่ะ เห็นมั้ยครับเอกชนมีปัญหา รัฐบาลจัดการ บอกคุณเถื่อน คุณผิดกฎหมาย เขาขอคุ้มครองว่าขอคุ้มครองชั่วคราว ศาลปกครองให้ความคุ้มครองชั่วคราวครับ บัดนี้จะไปร้องศาลปกครอง จะขอร้องว่าขอให้ปิดคุ้มครอง ให้ปิดชั่วคราว เพราะว่านัดหมายผู้คนมาก่อให้เกิดความจลาจลในบ้านเมือง ยังไม่ได้เป็นทางการนะครับ เพราะยังไงยื่นไปก็รู้แล้ว เพราะรู้แล้วว่าคำอธิบายคือศาลปกครองไปสั่งข้างเอกชนไม่ได้ อ่อ สั่งให้เขาออกอากาศได้นะครับ แต่สั่งให้หยุดออกอากาศไม่ได้ครับ มันน่าร้องไห้มั้ยครับอย่างนี้

ถ้าเป็นประชาชนคนธรรมดา ถ้าเป็นหัวหน้ารัฐบาลน่าร้องไห้มั้ยครับ ปลุกระดมมาเนี่ย ปลุกระดมคนทั้งบ้านทั้งเมือง นัดหมายกันมา จนกระทั่งคนเข้าใจผิดหมด แล้วก็เรียกระดมกันเข้ามาๆ กันน่ะ ศาลคุ้มครองให้ทำได้ครับ แต่เราจะยื่นเข้าไป บอกว่าไปสั่งให้เอกชนหยุดน่ะ ศาลปกครองสั่งเอกชนไม่ได้ ไหวมั้ยครับอย่างนี้

นี่ผมบอกตรงๆ ผมพูดตรงๆ เพราะผมมีหน้าที่รับผิดชอบกับบ้านเมืองนี้ คนพวกนี้เป็นใครจากไหนผมไม่ต้องนึกถึง แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้น กลัวกันหมดนี่ครับ เกรงกันหมด ทั้งกลัวทั้งเกรง หมดแล้วครับ นักการเมืองยังตัดสินใจไปขึ้นเวทีเลยครับ แปลว่าคนฟากโน้นมีโอกาสจะชนะถูกมั้ยครับ มีโอกาสจะยึดบ้านเมืองนี้ได้ใช่มั้ยครับ ไม่ได้หรอกครับ เพราะทางฝ่ายทหารเขาบอกแล้วว่าเขาไม่ยั่น ผมต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือจะใช้เต็มที่ ปัดโธ่ ไอ้บ้า เป็นรัฐมนตรีกลาโหม เป็นนายกรัฐมนตรี สั่งให้มันนั่น ผมบอกผมทำอย่างนั้นผมก็เสียคนตามแผนเขาเลยครับ

ตำรวจเอากระบองฟาดหัวแตกไป เขาคงจะว่า ไอ้แก๊สน้ำตาไอ้บ้าที่ไหนยิงมันยังจะเป็นข่าว หนังสือพิมพ์พร้อมจะประโคมข่าวใช้แก๊สน้ำตา แก๊สน้ำตาใช้ได้นะครับถ้าจะใช้ เขายังไม่ใช้เลยครับอยู่ดีๆ แล้วยิงแก๊สน้ำตา มีเหตุผลมั้ยครับ คนจะทำข่าวต้องใช้วิจารณญาณบ้างว่า ข่าวอย่างนี้มันเป็นเท็จจริงยังไง คือไม่ต้องมารับผิดชอบแทนผม ไม่ต้องไปออกรับแทนรัฐบาล แต่ต้องมีวิจารณญาณ แต่นี่ไม่หรอกครับ พรวดเดียวใส่เลย พาดหัวตัวเท่าหม้อแกง หนังสือพิมพ์ฝรั่งด้วย อ่านกันทั้งบ้านทั้งเมือง ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาแล้ว ไม่ได้ใช้ กำลังตรวจสอบว่าใครไปทำ มือที่สาม มือที่สี่ ยังไม่ทราบได้

เรื่องอย่างนี้วันนี้ต้องพูด เมื่อเช้าดู อ.สุขุม บอกโอ๊ย ถ้าคุณสมัครไปพูดเรื่อง 116 วัน ไม่หรอกครับ ผมจะบอกตอนท้ายเท่านั้นเอง วันนี้ต้องพูดเรื่องนี้ครับ ต้องพูดกันซะก่อนที่บ่ายโมงครึ่งจะได้พูดกันเป็นเรื่องเป็นราวในรัฐสภา ผมต้องอธิบายความให้ฟังว่า สถานการณ์บ้านเมืองนั้นคนพวกนี้ไม่มีสิทธิที่จะมาทำอย่างนี้ ตำรวจเนี่ย เพราะเราให้เขาไปมือเปล่า ตำรวจหลายพัน ไปป้องกันคนเป็นหมื่น ตำรวจเขาจะล้าไปบ้างผมก็ต้องเอาสุดท้าย สุดท้ายเมื่อนั้น ตอนศาลแพ่งสั่ง ถ้าเอาออกหมด เขาบอกต้องปะทะนะครับตอนนี้ ผมบอกงั้นถอยออกมา แล้วคุณไปพักผ่อน ผมเป็นคนสั่งให้ถอยออกมาเอง ต้องประนีประนอมเพื่อไม่ให้เกิดปะทะ เพราะสิ่งที่เขาอยากได้คือต้องการปะทะ ต้องการปะทะกันครับ ให้มันเกิดเหตุ ให้มันนองเลือด ทหารจะได้ออกมาอีก

กำลังนี้เราไม่ให้มันนอง เอาเถอะ ถ้าใครจะดุจะด่ากัน คือไม่ทำอะไรยังไง จะประคับประคองไว้ ก็บอกว่าไอ้รัฐบาลไม่มีน้ำยามันจะบริหารบ้านเมืองได้ยังไง แต่พอเวลาเล่นเข้าไปหน่อย จัดการรุนเข้าไปร รุนกันไปรุนกันมาเพื่อจะเอาออกตามคำสั่งศาล รุนแรง รัฐบาลใช้ความรุนแรง ไอ้นั่นก็จ้องอยู่เมื่อไหร่จะปะทะ ก็ขอให้ดูเถอะครับว่า ที่หลงฟังอะไรกันมานั้น เขาบอกมาตรา 63 ไม่มีอารยะ ไอ้นี่เหรอครับอารยะขัดขืน เอาผ้าปิดหน้าเข้าไป พก 11 มม.เข้าไป มีมีดดาบยาว มีปืน มีกัญชาเข้าไปน่ะ จับได้ 82 คน เนี่ยเหรอครับ มาตรา 63 ไอ้บุกเข้าไปตามที่ต่างๆ นี่เหรอครับมาตรา 63 เข้าไปในทำเนียบรัฐบาล เมื่อคืนนี้ฟัง จส.100 แหม รายงานกันฉับๆๆ รายงานอย่างสนุกสนานเลยเชียวนะครับ จส.100 ผมออกชื่อให้ด้วย ผู้หญิงน่ะ 2 คนคุยกันแจ๊บๆๆ โห พันธมิตรฯ ได้บุกทลายเข้าไปแล้ว เปิดประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย ตึกสันติไมตรีที่เคยรับแขกเมืองก็ถือว่าประชาชนมีสิทธิ์ เจ้าของ จะต้องเปิดให้เข้าไปชมให้ได้ข้างใน ตึกไทยคู่ฟ้า เปิดแล้วจะให้เข้าไป แต่ว่าพวกห้องต่างๆ นั้น ที่จัดงานนั้น จะรักษาไว้ให้บรรดา 5 ท่าน 5 เสือได้มาประชุมกัน ไหวมั้ยครับอย่างนี้

พูดถึงเรื่องบ้านเมืองกั้นคอกอาบน้ำ ทำส้วมต่างๆ เมื่อคืนฟังข่าว ยังไงรู้มั้ยครับรายงานข่าว พลเอกนอกราชการคนอหนึ่ง แหม มีความเจ็บช้ำน้ำใจว่าเรื่องห้องน้ำ โทรศัพท์หาเพื่อนที่สระบุรี สั่งให้เอารถสุขาให้เอาเข้ามาช่วย อย่างเนี้ยครับ นอกราชการนะครับ ในราชการขึ้นไปเชียร์กับเขาด้วยก็มี นี่ยังดีนะครับ ผมก็อดกลั้น ผมไม่อยากจะก่อให้เกิดเรื่อง เอาเถอะ จะใช้สิทธิเสรีภาพ ไม่อายกันก็แล้วไป แต่ผมยืนยันครับ ผมยืนยันว่า อย่ามาขู่เข็ญผมเลย ผมบอกคติผมคือความกลัวทำให้เสื่อม และผมไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลัวคนพวกนี้ แต่ที่ประคับประคองสถานการณ์ไว้นั้น เพื่อบ้านเมืองของเราครับ 1 ปี 1 ปีกับ 5-6 เดือน ที่สะดุดหยุดลงน่ะ สุดท้ายก็มาจากเลือกตั้ง เอารัฐธรรมนูญจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เลือกตั้งมาแล้วเรียบร้อย ก็ดำเนินการกันมา รัฐบาลก็อิโหลกโขลกเขลก แต่ก็ค่อยๆ ประคับประคองดำเนินมา ปรับบ้าง ปรุงบ้าง ดำเนินการกันบ้าง เอ้ามาว่าอดีตนายกฯ อยู่ข้างหลัง เขาก็ถอยไปอยู่ข้างนอกประเทศ ดำเนินการ โอ๊ย จะเป็นจะตายกัน พรรคเอาไว้ไม่อยู่แล้ว พรรคต้องแตก ทีแรกคนนึงประกาศเลย ถอน จะถอนก็ถอนไปคนเดียว พรรคก็ยังอยู่ เอ้าผิดหวังไปทีแล้วนะ ผู้สื่อข่าวผิดหวังนะ คนรายงานข่าวผิดหวัง

เอ้า เสร็จแล้วก็ไป โอย พรรคต้องแตกแล้ว นั่นแล้ว จะยังไง ก็เอาเขาไปประจานกันน่ะ ก็ไม่เคยทำน่ะ เอ้าลูกพรรคเขาก็โกรธ ผมก็ต้องไปอธิบายให้ฟัง พูดจาอธิบายกันเป็นภายใน ประชุมภายใน ไปเอาถ้อยคำออกมา เอามาพาดก็ด่าผม นี่ไงๆ อย่างโน้นอย่างนี้

แส่!!! ไปเอาคำเขาออกมาแล้วมานั่น ทำไมล่ะครับ แล้วทำไม ผมพูดแล้วเขาเข้าใจกันได้ล่ะครับ ทำไมคนทั้งพรรค 230 คน เขาเข้าใจที่ผมอธิบายได้ 20 นาที เสร็จแล้วจบเรื่อง ก็ดำเนินการกันต่อมา

แล้วบัดนี้เป็นยังไงล่ะครับ เอ้า ล่อกันอีกแล้ว โอ๊ย จัดการนัดหมาย 6 พรรคประชุม เป็นสิทธิครับ แต่ผมกระซิบบอกไปหมดแล้วบอกให้ผมแบกน้ำหนักเถอะ อย่าเพิ่ง ทั้ง 5 พรรคไม่ต้อง ทุกคนเขาก็รู้ว่าผมเป็นคนดำเนินการ เป็นนายกรัฐมนตรี ใน ครม.ถ้ารับผิดชอบร่วมกันก็มีทุกพรรคอยู่ด้วยกัน ก็ให้ ครม.ดำเนินการ แต่เขาก็จะเอา เอ้า จะประชุมก็เอา งั้นมาประชุมตกลงกัน แล้วฟังความว่าไง ก็แถลงออกมาว่าได้ดำเนินการไปเหมือนเดิม ก็บ้านเมืองต้องการอย่างนี้ครับ ข่าวอย่างนี้ที่ออกมาแล้วดำเนินการต่อไป ถามสิครับ ผมใช้คำถามเสมอว่า จุดหมายปลายทางของคนที่ก่อให้เกิดเหตุนี้อยู่ตรงไหน อยู่ตรงไหนครับ อย่านึกนะครับว่าที่ทำอะไรกันมาที่เตรียมการผมไม่รู้ ผมรู้แต่ผมไม่อยากจะ ถ้าพูดออกไปปั๊บ เอาแล้ว มาตรา 157 มาแล้ว

ประชุมกันที่โรงพยาบาลที่ไหน ที่กรุงเทพฯ ยังไง ผมก็รู้ครับ เบอร์คนใหญ่คนไหนไปประชุมกันยังไง ก็รู้ จะจัดการดำเนินการกันไป แต่บังเอิญครับ บังเอิญนายกรัฐมนตรีมันไม่ใช่คนที่จะปลิดทิ้งได้ง่ายๆ มันชื่อนายสมัคร สุนทรเวช และผมใช้นโยบายความกลัวทำให้เสื่อม ผมไม่ต้องการให้บ้านเมืองนี้เสื่อมลงไปอีก ผมจึงไม่กลัว สถานการณ์จึงได้ลากมาถึงวันนี้ 26 - 27 - 28 - 29 - 30 วันนี้ 31 เอ้า เข้าสภาได้ เอาสิครับ จะดูซิสภาจะเป็นยังไง จะได้ดูเลยว่าคนในสภา 480 บวกที่มันนั่นน่ะ เลือกตั้งมา 76 แต่งตั้งมา 74 เอาสิครับมาแสดงกันเลย มาแก้ผ้าให้ดูในสภาเลยว่าใครเป็นยังไง ก็ต้องวันนี้ล่ะครับ พูดไว้เลย ผมไม่ได้มาดักคออะไรต่างๆ พูดเลยครับ ใครจะแสดงยังไง คนทั้งประเทศจะได้รู้เลยครับว่าคนนี้คิดยังไงๆๆ ไม่มีการลงมติครับ ผมจะไปฟังด้วย ตอนจบผมก็ต้องใช้สิทธิ์อธิบายความ ผมจะคุยอย่างที่ผมคุยในโทรทัศน์วันนี้ล่ะครับ จะมีรายละเอียดยังไง จะมีอะไร ผมอาจจะตอบมากกว่านั้น ไม่มีลงมติครับ บ้านเมืองยังอยู่ในลักษณะนี้ แต่ผมย้อนไปดูเลยว่า คนที่ปลุกระดมกับเขาด้วย เอากับเขาด้วย คือสหภาพแรงงานน่ะ คิดยังไงครับ ไม่เห็นแก่บ้านเมืองเลยเหรอครับเนี่ย หยุดรถไฟ หยุดรถเมล์ สายการบินจะเอากับเขาด้วย การบินไทยเอากับเขาด้วย ไม่อายเหรอครับเนี่ย

คุณจรรยา สุกโชติรัตน์ คุณไม่อายเหรอครับที่คุณทำอย่างนี้เนี่ย ทางสหภาพฯ ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วยก็จัดการเอาเขาลงจากตำแหน่งสิ ถ้าไม่เห็นด้วย โหวตเลยสิครับ ถ้าไม่เห็นด้วย จะนั่นยังไง รปภ.ภูเก็ต ต้องตรวจสอบแล้วครับ ทำไมผู้ก่อการร้ายซักซ้อมยังป้องกันได้ แต่ทำไมคนขนาดนี้มา ให้เขานอนขวางสนามบิน ไม่มีอาวุธไม่มีอะไรนอนขวาง เครื่องบินระหว่างชาติ 16 ลำ ลงไม่ได้ น่าอายมั้ยครับ ภูเก็ตเป็นเมืองที่ใครต่อใครหลั่งไหล ชาร์เตอร์ไฟลท์ต้องมาต่างๆ เขาก็เริ่ม มันดีจนขนาด บ้านเมืองดีขนาด เขาได้รับเลือก ขนาดปฏิวัติมาแล้วเขายังเลือก เพราะ 7 เดือนที่ผ่านมาเนี่ยครับ เขาเพิ่งโหวตเมื่อเร็วๆ นี้ เขาเลือกเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวที่สุดในโลก ชื่อกรุงเทพพระมหานคร ชื่อ กทม. แล้วทำไมครับ ใครทำลายครับเนี่ย

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐเมื่อวานนี้ ต้องออกชื่อ โอ๊ย คนเขียนการ์ตูน ชัย ราชวัตร น่ะไม่มีวันละเลย ไม่มีวันเลยเชียวครับ ต้องกระทบกระแทกแดกดัน ไปเปิดดูสิครับไอ้หน้าเมื่อวานนี้ เหมือนกับว่าเหตุที่เกิดเนี่ยเพราะไอ้โทรทัศน์พูดจา โทรทัศน์รายการนายสมัคร โทรทัศน์รายการความจริงวันนี้ ถ้าไม่เอาความจริงวันนี้มาพูด แล้วคนจะเข้าใจมั้ยว่าอะไรเป็นอะไรครับ ไปออก PTV ถ่ายทอดไปที่ไหนก็ไม่ได้ จึงได้เอาเข้ามา เขาก็จัดการ ผมก็ปฏิเสธว่าผมไม่ต้องเขาจัดการ มีช่องทางเรียบร้อย แต่เขาพูดเรียบร้อยมั้ยครับ เขาพูดคนเข้าใจมั้ยครับ ก็ใครจะ ฟ้องศาลเลยสิครับ เอาไปดำเนินคดี นี่ไม่ดำเนินคดีแต่มากดดัน บอกเนี่ย เป็นเพราะสาเหตุอย่างนี้ ชัย ราชวัตร เขียนการ์ตูนเลย เป็นช่องโทรทัศน์ เหมือนไอ้ NBT นี่น้ำเน่า

อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ยังอุตส่าห์เขียนบทความเลยว่า นายสมัครเนี่ย ถ้าหยุดจัดรายการสนทนาประสาสมัคร เรทติ้งสมัครจะดีขึ้นทันที โอ้ อ.นิธิ ก็เห็นอย่างนี้นะครับ ผมไม่ทราบหรอกว่าคนทั่วบ้านทั่วเมืองเขาเห็นอย่างอาจารย์หรือเปล่า แต่ว่าถ้าคนไทยทั้งประเทศเห็นอย่างนี้ ก็แปลว่าผมมาหน้าด้านจัดรายการอย่างนี้อยู่เหรอ ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ผมมารายงานให้ประชาชนรู้ว่าอะไรเป็นอะไรยังไง วันนี้เป็นวันที่พูดเรื่องอื่นไม่ได้ ต้องพูดเรื่องนี้ เหตุเกิดวันที่ 26 น่ะ ผมต้องอธิบายความ แล้วอธิบายความต้องไม่ด้วยความไปกลัวไม่ต้องเกรงอะไรทั้งสิ้น จะยังยึดทำเนียบยังอยู่ เอาไว้ก่อน แต่ว่าต้องจัดการได้ครับ บ้านเมืองปล่อยอย่างนี้ตลอดไม่ได้ มันต้องถึงจบ แต่ผมรู้ว่าถ้าผมทำอะไรลงไป มันเสียบรรยากาศ ประกาศภาวะฉุกเฉินก็บรรยากาศเสียไปทั่วโลก ผมไม่ฮะ ผมก็ยังทำงานต่างๆ บัดนี้ก็ต้องเรียกว่าค่อยยังชั่ว รอมาถึงวันนี้ได้ก็จะได้พูดให้คนทั้งประเทศได้รู้ว่าอะไรมันเป็นอะไร ไม่ให้ถูกเขาหลอกต่อไป ฟังโทรทัศน์ ASTV ด่าข้างเดียว ด่า 24 ชั่วโมง ด่าหยาบด่าคาย ด่าเสียด่าหาย ด่าเสียจนคนอย่างผม ผมจะถามสิครับว่าคนอย่างผมเนี่ยเหรอครับทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง ตรวจสอบมาสิครับ ดำเนินคดีได้เลย ทำไมล่ะ สอบไอ้รถดับเพลิงน่ะล่อเข้ามา 2 ปี ยังสอบไม่เสร็จเลย ยังล่อไปล่อมาอยู่เนี่ย ทำไมครับ ไปขุดเอามาน่ะไอ้ขยะ 3 ปีก่อน แล้วมันเดินหน้าไปแค่ไหนยังไง จะพยายามหาโน่นหานี่ ไม่ได้กินหรอกครับ ถ้าสกปรกจริงมาไม่ได้ไกลถึงขนาดนี้ เพราะงั้นมากล่าวหาว่าทุจริตเหรอ

ไอ้รถเมล์เขาจะปรับปรุง ยังไม่ทันจะลงมือ ผมบอกเอ้าพรรคชาติไทยช่วยไปจัดการดูแลด้วย พล.ต.สนั่น ดำเนินการตรวจสอบให้ เอ้าสอบกันเองภายในดูสิว่าเป็นยังไง โครงการอะไรกำลังริเริ่ม กำลังเจรจาความ กำลังตกลงต่างๆ แล้วต่อไปใครเขาจะมาให้มันร่วมมือได้ครับ พอขึ้นมาก็จะทำลายล้างกันซะแล้ว กล่าวหาว่าทุจริต งานสภาเนี่ยไปช่วยเขาแท้ๆ นะ เพราะเป็นรัฐมนตรีฯ กลาโหม ตรงนั้นเป็นที่ทหาร จัดการเสร็จ ทำอะไรต่ออะไรเสร็จ ทุกอย่างดำเนินการได้เสร็จหมด ก็ต้องสะดุดหยุด เพราะอะไร เพราะไอ้ความไม่มีเหตุผล โรงเรียน 8 ไร่ อยู่ตรงมุมนั้น ย้ายไป 1,700 เมตร มุมเดียวกัน ได้ 16 ไร่ สร้างมาให้ใหม่ ตึกสวยงามอาจจะไม่ต้องรื้อทิ้ง สำนักงานเลขาธิการก็อาจจะใช้ทำงานได้ ตรงไหนรื้อก็รื้อ ตรงไหนสร้างก็สร้าง มันรัฐสภานะครับ ทำเนียบรัฐบาลน่ะมี ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงไม่ต้องหาใหม่ เก่ามันใช้ได้ แต่วันนี้มีคนทำสกปรก แล้วศาลล่ะครับ ศาลท่านก็ต้องสร้างของท่าน เวลาศาลท่านจะสร้างทำไมไม่มีใครไปเที่ยวร้องล่ะ ศาลท่านไปอยู่ตรงโน้นน่ะครับ รัชดาฯ น่ะ ท่านหาที่ของท่าน จัดการของท่าน ท่านมีเงินมากอง ได้งบประมาณท่านจัดการเลย ขอที่รถไฟ เห็นมั้ยครับศาลขอที่รถไฟใช้ สร้างเลย ตรงนั้นเลยครับ ลึก 120 เมตร เป็นศาล 180 เมตร 40 เมตรเป็นถนนซะแล้ว ตรงนั้นอัยการมาทีหลัง อัยการก็ได้บางหน่อย ทำไมไม่มีพวกไหนไปต่อต้านล่ะครับ หรือว่าเป็นศาล เป็นอัยการ กลัวกันหมด พอเป็นรัฐบาลไม่กลัว เป็นสภามันก็ล่อเข้าไป ยังไง มันไม่ยุติธรรมนะครับ บ้านเมืองเราเป็นอย่างนี้ มันมาจนกระทั่งมันป่านนี้แล้วนะครับ ต้องพูดกันให้ชัดเจนเลยครับ โทรทัศน์เนี่ยไปทั่วประเทศ ท่านพี่น้องที่ฟังอยู่ทั่วประเทศท่านลองตรองดูสิครับว่าอะไรมันเกิดขึ้นกับบ้านเมืองนี้

ท่านที่ลุกขึ้นไปเย้วๆๆ กับเขาต่อต้านรัฐบาล มันยังไงล่ะครับ รัฐบาลนี้มันผิด มันเลว ก็ท่านนั่งฟังเขาด่าข้างเดียวนี่ เพราะรัฐบาลบอกมีรายการความจริงวันนี้ เท่านั้นเอง ก็ทนไม่ได้ เพราะรู้ว่าจะต้องถูกหักล้าง เดือนเดียวเท่านั้น เดือนกว่าๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้ เป็นข้อกล่าวหาในการที่จะลุกขึ้นมาปลุกระดมล้มล้างรัฐบาลครั้งนี้

ข้อหาแรงไป โอ๊ย วิจงวิจารณ์กันหมด ศาลท่านต้องวินิจฉัย มี 4 มาตรา ถ้าไม่ใช้อ้างมาตรานี้จะเป็นยังไง แล้วที่ทำเนี่ย เขาล้มล้างรัฐบาลนะครับ ให้รัฐบาลนี้ต้องออกไปอย่างเดียว เข้าไปยึดอำนาจ ยึดอะไรครับ ยึดทำเนียบรัฐบาล เข้าไปบุกต่างๆ แสดงอำนาจบาตรใหญ่ ส่งคนไปโน่นส่งคนไปนี่ ส่งไปกระทรวงการคลัง ไปกระทรวงต่างๆ ส่งคนไปยึดสนามบิน ส่งคนจะไปกดดันบ้านผม แล้วบ้านเมืองอย่างนี้มันยังไงครับ บ้านเมืองอย่างนี้มันเป็นประชาธิปไตยเหรอครับเนี่ย เนี่ยเหรอครับพันธมิตรฯ ประชาธิปไตย พันธมิตรฯ ทำลายประชาธิปไตยสิครับ ถูกต้องเลย ตรงไปตรงมาเลย บ้านป่าเมืองเถื่อน ไม่มีกฎบัตรกฎหมาย หมายความว่าจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ ลุกขึ้นมาจัดการเลย ใส่หมวกผูกผ้าพันคอ เสร็จแล้วก็ออกมาเดิน เป็นคนใหญ่คนโต ที่ผมช้ำใจจริงๆ คือสื่อสารมวลชนของบ้านเราเนี่ยล่ะครับ ยกย่องสรรเสริญคนพวกนี้

ผมร้องทุกข์กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ว่าท่านเสพสื่อ ท่านฟังแล้ว ท่านใช้วิจารณญาณด้วย คนพวกนี้ล่ะครับ 5-6 คนนี่ล่ะครับ รายงาน แหม แสดงความชื่นชม แสดงอะไร แม้กระทั่งเมื่อวานนี้ เขาก็เผยไต๋เขาออกมาแล้ว สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ เขาบอกเลยครับ ยกตัวอย่างเลย ต้องให้มีความเปลี่ยนแปลง สั่งให้พรรคร่วมรัฐบาลสับขั้ว ไปร่วมมือกับประชาธิปัตย์ ให้รัฐบาลประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ถ้าเป็นไปเสร็จแล้วก็ยุบสภา แล้วก็เลือกตั้งใหม่ ถ้าเลือกตั้งไม่ดีเขาจะออกมาอีก แล้วคนพวกนี้เป็นคนวิเศษมาจากไหนครับ กฎบัตรกฎหมายของบ้านเมืองเป็นยังไงครับ คำสั่งศาลออกมาไม่มีใครปฏิบัติตาม แล้วทำยังไง แล้วศาลเอาหน้าไว้ไหนล่ะครับเนี่ย

มันไหวมั้ยครับบ้านเมืองถ้าเป็นอย่างนี้ ผมยืนยันว่าผมมีหน้าที่ต้องป้องกันสิ่งที่บ้านเมืองเรามีอยู่ ต้องป้องกันไว้ทั้งหมด ผมนี่ล่ะครับ มันต้องเริ่มต้นที่ตัวหัวหน้ารัฐบาล คณะรัฐมนตรีที่ร่วมรัฐบาล และองคาพยพทั้งหมด ต้องให้คนทั้งบ้านทั้งเมืองเข้าใจว่าไอ้สิ่งที่คนพวกนี้มาทำนั้นมันผิดกฎหมาย มันป่าเถื่อน มันไม่มีใครเขาทำในโลก เมื่อเช้าผมนั่งฟังเขา โอ๊ย แต่เช้ามืด ล่อกันวะ โอ๊ย เป็นความภาคภูมิใจ นักวิชาการพลิกตำรา เปิดหากฎหมายไม่ได้ เป็นพฤติการณ์ครั้งแรกในโลกที่จะทำอย่างนี้ เป็นสิ่งที่พวกเราทำ และเป็นครั้งแรกในโลก ไม่มีตำราที่ไหนในโลก เราทำสำเร็จ โอ้โห ชื่นชมโสมนัส แล้วแต่ละคนพูดมาไหวมั้ยครับ ฟังทั้ง 5 คน พูดทีละคนๆ พูดออกมา มันมีตัวบทกฎหมาย มีความอะไรที่รองรับมั้ยครับ ไม่มี อยู่ๆ ก็เผยไต๋ออกมาว่าอยากจะให้พรรคการเมืองฝ่ายค้านขึ้นมาเป็นแทน แล้วถ้าเป็นแทนแล้วจัดการเลือกตั้งแล้วยังไม่ได้ผลอย่างนั้นอีก ก็จะเอาออกมาอีก แล้วตกลงทำยังไงครับ กฎบัตรกฎหมายบ้านเมืองเป็นยังไง ตำรวจเป็นยังไง ทหารเป็นยังไง ความสงบของบ้านเมืองเป็นยังไง ไม่มีเคารพนับถืออะไรเลย เอาแต่จะได้ทั้งนั้นแต่ละคนๆ

ไอ้นายคนหนึ่งอ้างว่าเป็นอะไรในรถไฟ ไม่มีตำแหน่งอยู่ตั้งนานแล้วก็อ้างกันอย่างนั้นล่ะครับ นายคนที่หน้าตาใส่หนวดใส่เครานั่นล่ะครับ คนที่เป็นสมาชิกสภาก็ยังแสดง และวันนี้บ่ายโมงครึ่งจะได้ดูซิเขาจะแสดงธาตุแท้เขาจะยังไง พรรคก็ไม่กล้าไปแตะต้อง เขาก็จัดการ บอกเขาเป็นของเขาอย่างนั้น แล้วยังไงครับ ได้รับเลือกตั้งมาแล้วประพฤติอย่างนี้แล้วเป็นยังไง แล้วตกลงคนทั้งบ้านทั้งเมืองจะเอาอะไรเป็นหลักเป็นเกณฑ์ครับ แล้วถ้าตำรวจจะใช้อาวุธยังไง ผมต้องห้ามว่าใช้ไม่ได้ ถ้าใช้เป็นเครื่องมือทันที ตำรวจมีอาวุธที่ป้องกันทำเนียบฯ อยู่ข้างบน เขาล็อกไว้ข้างบน เขามีปืนมีอะไรต่างๆ ไปเปิดไปค้น เสร็จแล้วก็รีบไปแจ้งความเลย แจ้งความแล้วปรากฏว่ายังไงครับ ปืนพกหายไป 8 กระบอก ปืนเอ็ม-16 หายไป 1 กระบอก ลูกกระสุนหายไป 2-3 หีบ แล้วใครล่ะครับเนี่ย ตำรวจขโมยไปขายเหรอ

มัน แหม มันฟังดูแล้ว .. แล้วเข้าไปทำไม ไปยึดอยู่ทำไมกำลังนี้ ความสกปรกโสโครก ใครไปทำเนียบก็ต้องรู้ว่าความสะอาดตั้งแต่สนามหญ้า ตั้งแต่ต้นไม้ จะตัด เล็ม จนกระทั่งพรมทุกผืนอะไรต่างๆ มันใช้รับแขกเมือง ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ ของอย่างนี้มันแก้ไขได้ มันทำได้ แต่ทำกันอย่างนี้มันนึกมั้ยครับว่า นึกมั้ยครับ หัวหน้าพรรคการเมืองไอ้พรรคใหญ่ๆ ที่ตั้งใจจะสนับสนุนน่ะ ลองคิดสิครับว่าถ้าคุณเป็นผมแล้วเจออย่างนี้จะทำยังไง เอาล่ะ กลับชื่อกลับเสียงกันแล้วดำเนินเดินกันอย่างนี้ทำยังไง จะถามซิว่าเป็นยังไง

ยังไปทำกระด๊อกกระแด๊กๆ ออกมาพูดจาดี ผมก็สนับสนุนขอบคุณ ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นดีแตก จัดการไปอย่างโน้นอย่างนี้แล้ว แล้วคนในบ้านเมืองทั้งบ้านทั้งเมือง ถ้าไม่มีคนมาอธิบายให้ฟัง ไม่มาพูดอย่างนี้ นี่เป็นหัวหน้ารัฐบาลนะครับได้โอกาสพูด ผมต้องกลั้นใจรอ ผมรอถึงเมื่อวาน ผมทำงานให้เจ้าฟ้าเจ้านายได้สำเร็จ เสร็จแล้ววันนี้ผมก็ต้องพูดของผม เดี๋ยวบ่ายผมพูดในสภา แล้วมันมีอะไรน่ากลัวมั้ยครับ มีอะไรผิดปกติมั้ยครับ ผิดปกติคือว่า สื่อสารมวลชนในบ้านเรานั้น เขาบอกเขาต้องรายงาน เอ้าคุณรายงานไป จะรายงานเชิงยกย่องสรรเสริญกันยังไงก็ไปเถอะ กำลังนี้รายงานไป ทางโน้นเขาเสียรังวัด พูดจากันออกมาไม่มีเหตุผล ค่อยๆ แก้ผ้าให้เห็นทีละชิ้นๆ ว่าอะไรเป็นอะไรยังไง แต่ปัญหาว่าผมจะไปเรียกร้องให้สื่อมวลชนเขาใช้วิจารณญาณในการเสนอข่าวก็คงไม่ได้ วิจารณญาณมันต้องเกิดอยู่ในตัวของคนทำข่าวเขาจะนั่นเอง เขาควรจะต้องเห็นแก่บ้านเมืองหรือไม่ หรือไม่ต้องการเห็น

รัฐบาลทลายไปยิ่งมีเรื่องเท่าไหร่กูยิ่งเสนอข่าวสนุก ยิ่งปะทะเท่าไรยิ่งดี พอใช้คำว่ากระเหี้ยนกระหือรือ แหม กลายเป็นคำเลวทรามอีกแล้ว กระเหี้ยนกระหือรือ ก็ไอ้พฤติการณ์ที่แสดงกันน่ะ อย่างเมื่อวาน ผมไปนัดหมายอะไร ผมไม่ได้พูดอะไรสักคำ ไปบอกเลยกลับมาจะมาเปิดแถลง เอารถโอบีไปตั้ง เสร็จแล้วบอกสมัครเบี้ยว สมัครหนี ผมไม่ยอมให้มาว่าผมอย่างนี้หรอกครับ ผมไม่ได้เบี้ยว ผมไม่ได้หนี พวกคุณน่ะครับมั่ว ไปคิดเอาเองว่าจะแถลง แล้วที่ไอ้ความคิดของคุณนี่ผมไม่อยาก แหม ขอประทานโทษจริงๆ นะ ขออภัยจริงๆ ไม่อยากพูด คิดกันได้ยังไงครับว่าผมจะลาออกน่ะ คาดการณ์ว่านายสมัคร ไปเฝ้าแล้วจะมาลาออก คิดได้ยังไงครับ ก็ผมแถลงไปหยกๆ ว่าผมจะไม่ลาออก ผมจะอยู่บริหารบ้านเมืองนี้ แล้วผมก็ขอขึ้นเครื่องบินไป แล้วมันคิดกันได้ยังไงครับ ไปตั้งป้อมว่าสมัครจะกลับมาแถลงลาออก

หวังให้ไปเฝ้าเจ้านายแล้วมาแถลงเหรอ คนที่ขนบธรรมเนียมดีเขาไม่ทำอย่างนั้นหรอกครับ ผมย้ำอีกทีว่าผมเฝ้ามาแล้ว 10 หน ไม่เคยแถลงสักหนเดียว บางทีก็ไม่ต้องออกข่าวให้ใครรู้ทราบ เมื่อวานจำเป็นเพราะต้องขอลาคนเป็นหมื่นๆ เขาไป ก็จะต้องแถลงว่าจะต้องไปหัวหิน

ขอให้ได้เข้าใจกันบ้างสิครับ ให้รู้กันบ้าง อย่างผมเหรอไปนัดหมายแล้วก็ไม่ได้ทำตามนัดหมาย มันไม่ได้มีเหตุผลอะไร ทำไมจะต้องหนี ผมไม่ต้องหนีครับ แม้กระทั่งมีข่าวออกมาวันนี้ คนนี้ๆๆ มีคนใหญ่คนโตในอดีตที่เคยกุมกำลัง จะใช้วิธีการ ใช้ภาษาฝรั่งเรียก Kidnap นายกรัฐมนตรี จะให้อีกคนไปจัดการ ที่เชี่ยวชาญระเบิด จะเอาลูกระเบิดไปโยนใส่บ้านนายกรัฐมนตรี มันเสียทั้งนั้นล่ะครับ ลองเอาข่าวเนี้ย รัฐมนตรีเอาระเบิดวางระเบิดบ้านตัวเอง ลองดูสิครับ ลองเอาอย่างนั้นสิ มันเคยโดนมาแล้ว ผมก็เคยโดนระเบิดหย่อนที่บ้านมาแล้ว แล้วก็บอกว่าทำเอง ผมอายเรื่องพรรค์อย่างนี้ครับ ใครมันจะบ้าอย่างนั้นก็ตามแต่ แต่ผมก็บอก เรื่องพรรค์อย่างนี้กลัวมั้ย ไม่กลัวหรอกครับ ขู่มั้ย ก็คุณเอาของคุณไปสิ ออกข่าวไปหมด ทำไมผมจะไม่รู้ คนจะมาล้อมบ้านผม มีไอ้หยิบมือนึงมาก่อน ไอ้ทางโน้นจะมา แล้วทำไมไม่มาล่ะครับ มีการเปลี่ยนแปลงอะไร มีการต่อรองอะไรถึงไม่กล้ามา ปัดโธ่ ของพรรค์นี้มันไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ รู้อะไรกันอยู่ แต่ผมไปเที่ยวพูดไปเที่ยวประจานยังไงได้มั้ยครับ

เป็นนายกรัฐมนตรีต้องรู้ครับ รู้อะไรเป็นอะไรยังไง แต่ไม่ต้องพูด แต่จะแก้ไขปัญหา ผมไม่มาอวดจะทำอย่างนั้นจะทำอย่างนี้ ไม่ครับ แต่ที่ผมบอกได้ที่เชิญชวน วันนี้บ่ายโมงครึ่งฟังสภาพูดกัน อย่างนี้ต้องเชิญชวนได้ วันนี้ NBT จะถ่ายทอดยาวตลอด เอ้า ใครจะด่า NBT ว่ายังไง ใครไม่ถ่ายก็ไม่เป็นไร แต่ที่จะถ่ายให้คนทั้งประเทศรู้ว่าตัวแทนของท่านทั้งสองซีกเขาจะพูดกันว่ายังไง เขาจะพูดกันถึงการแก้ปัญหาบ้านเมือง

เรื่องอย่างนี้ต้องอธิบายความกันให้เห็นชัดเจน ถ้าไม่งั้นบ้านเมืองไปไม่ได้ครับ กว่าจะประคับประคองกลับมาได้ ที่แล้วมายึดอำนาจโดยไม่มีเหตุผล เขาอ้างว่ามีเหตุผล เอ้า เข้าใจมีเหตุผล เอ้าปีนึง ปีครึ่ง เสร็จเรียบร้อย กลับมาสถานะเดิม ผมมาเป็นนายกรัฐมนตรี ผมทำหน้าที่ของผมแล้ว ผมประคับประคอง ผมเดินทางไปแล้ว 10 ประเทศ ได้พบกับประมุขทั้ง 10 ประเทศ จีนน่ะพบ 2 หน เป็น 11 หนแล้ว ผมไปทำหน้าที่ อธิบายความทุกอย่าง กำลังดำเนินการ เวลานี้ผมดำเนินการเมืองระหว่างประเทศด้วย คนนั้นเขาก็นั่นกัน เขาจะทำให้ประเทศบ้านเมืองของเราจะต้องมีอาการเป็นไป ผมบอกไม่ได้ ผมต้องยื่นมือเข้าไป ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรนักหนาหรอกครับ ยื่นมือไปบอกว่า เอาล่ะ เดี๋ยวจะบอกให้รู้ว่าอะไรควรจะทำยังไง เขาเน้น เขาฟาดฟัน จะเอากันเรื่องนี้ ผมบอกไม่ได้ นายแกมบารี เข้าไป 6 หนแล้วครับ ไม่ได้เรื่อง แต่ผมไป 2 หน ผมยืนยันว่าของผมได้เรื่อง เพราะว่าผมไม่ได้พูดเรื่องที่นายแกมบารี ไปดำเนินการ ผมทำคนละแบบ ทั้งโลกนี้ต้องการให้เขาเลือกตั้ง เขาจะเลือกตั้ง วิธีการยังไง ๆ ผมกำลังชักชวนให้สหประชาชาติไปดูการเลือกตั้ง เพื่อจะได้รวดเร็วขึ้น จะได้ตรวจสอบ ไม่ต้องไปกล่าวหากัน ผมเลือกอีกแบบหนึ่งครับ ผมเลือกเข้าไปช่วย ไม่ให้เข้าไปขนของ เข้าไปช่วย 47 ประเทศเข้าไปช่วย นี่เราช่วยเพื่อนบ้านของเรา ผมบอก บ้านเมืองผมติดกัน ผมยกประเทศไปไหนไม่ได้ ผมต้องมีไมตรีกัน แล้วเขาอยู่ในอาเซียน 1 ใน 10 ผมต้องยื่นมือไปให้ ใครจะว่ายังไงก็ นี่ผมทำงานนี้อยู่ครับ ทำงานระหว่างประเทศแล้วกำลังนี้ พบปะพูดจา

วันที่ 25 วันที่ 26 ก็จะไปพูดสหประชาชาติ นี่จะได้ไปหรือเปล่ายังไม่ทราบได้ ก็อย่างนี้ล่ะครับ กำหนดการเตรียมการ 3 เดือน เตรียมการ 3 เดือนนะครับ เตรียมการ 3 เดือนว่าจะต้องไป จะต้องไปประชุม พวกทูตที่ยุโรปจะต้องทำรายการหมดล่ะครับ เสร็จแล้วยังไง ความจริงถ้ายังไม่เกิดเหตุนี้ก็ยังต้องมีเหตุ ผมก็ต้องทำงาน ศาลจะตัดสินคดีผมวันที่ 25 ผมจะพูดกับสหประชาชาติวันที่ 26 ผมก็ต้องทำหนังสือกราบเรียนศาลว่าผมเตรียมการ 3 เดือน 3 เดือนครับกว่าจะนัดหมายทูตทั้งหมด จะประชุม จะเลือกประเทศที่ประชุมในยุโรป จะเดินทางไป ตามรายการเสร็จหมด ก็ราวๆ อาทิตย์กว่าๆ ที่ดำเนินการ ก็จะพิพากษาคดี ศาลของเรา ก็ไม่เป็นปัญหา ถ้าเผื่อว่าเรื่องนี้สำคัญถ้าศาลไม่ยอมให้เลื่อน ผมก็จะต้องตัดสินใจเลิกสหประชาชาติทั้งหมด ก็รอฟังศาล ก็มันไม่ได้ตั้งใจแต่ผมเชื่อว่าท่านต้องให้เหตุผล

ผมไม่ได้เลื่อนไม่ได้หนีอะไร ถ้าผมเลื่อนสัก 7 วัน ผมกลับมาก็มาอ่านได้ ก็จะอ่านคำพิพากษากันตรงนั้นก็ไม่มีปัญหาครับ อ่านคำพิพากษาแล้วก็อย่าวิตกวิจารณ์พวกบรรดาพวกไม่รู้ทั้งหลายทั้งปวง ยังเดินหน้าต่อไปครับ ยังเดินหน้าต่อไป ยังไม่นั่นหรอก ตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังไม่สิ้นสุดเพราะคำพิพากษา นะครับ ผมอธิบายให้ฟังให้เข้าใจซะ เมื่อข่าวไปว่าผมขอเลื่อนไป 7 วัน เดี๋ยวจะบอกสมัครหนีศาล ไม่หรอกครับ คดีหมิ่นประมาทธรรมดาๆ แท้ๆ เท่านั้นเอง คดีหมิ่นประมาทเท่านั้นล่ะครับ เผอิญศาลชั้นต้นท่านตัดสินลงโทษจำคุกแล้วไม่ให้รอลงอาญา จากนั้นศาลอุทธรณ์ท่านก็จะตัดสิน ก็สุดแท้แต่ศาลท่าน ถ้าศาลอุทธรณ์ท่านยืน ผมก็ต้องไปศาลฎีกา เท่านั้นล่ะครับไม่มีปัญหาอื่น ถ้างั้นอธิบายความให้ฟังซะ ชิมไปบ่นไป อะไรยังไง ผมก็ต้องชี้แจง วันที่ 8 นี้ผมก็จะไปชี้แจง จะไปชี้แจงเรื่องอย่างนั้น เอ้าจะเป็นยังไง ถ้าจะบอกอย่างนี้ต้องเสียตำแหน่ง ก็เสียตำแหน่งก็เอา ให้ท่านตัดสินมา กกต.จริงๆ ทำได้ คณะอนุกรรมการบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรต่างๆ ยังอุตส่าห์มา กกต.ลงคะแนน 4 ต่อ 1 แปลว่าไง เหมือนกับให้ใบแดงน่ะฮะ ส่งขึ้นไปให้ข้างบน ให้ศาลรัฐธรรมนูญ ก็ดูสิครับว่าจะเป็นยังไง

ผมก็ต้องผจญกับเรื่องพรรค์อย่างนี้ แต่ผมก็ทำอยู่ ผมยังต้องทำหน้าที่ดูแลบ้านเมืองนี้อยู่

เอาล่ะครับ ผมจะใช้เวลาตรงท้ายหน่อย ฟังความท่านที่ได้ส่งคำถามเข้ามาบ้าง เดี๋ยวจะว่าให้โทรศัพท์เข้ามาแล้วไม่นั่นอะไรเลย พอมีเวลาเหลือตรงท้ายหน่อย

กทม.อยากให้เตือน พูดเตือนประชาชนที่มีส่วนร่วมในการปิดสนามบิน เสมือนเป็นการทุบหม้อข้าวตัวเอง ควรคิดให้ไกล อย่าทำอะไรแบบคิดสั้น คนในพื้นที่จะหากินไม่ได้
- อย่างนี้คนใน จ.ภูเก็ต ก็ไม่ควรกลัวครับ ถ้าหากท่านเห็นว่าอย่างนี้ท่านต้องออกมาแสดงพลังของท่าน ไม่มีอะไรเสียหายหรอกครับ แต่ที่ผมตำหนิ รปภ.ภูเก็ต จ้างเงินไว้เสียของเปล่าๆ ถ้าทำกันอย่างนี้ได้แล้วกลัวกันหมด นี่ความกลัวทำให้เสื่อมครับ เสียหายหมดเชียวครับ คนหยิบมือนึงไปปิดสนามบินแล้วออกข่าวประโคม ไอ้ผู้สื่อข่าวทั้งหลายทั้งปวงนี่ล่ะครับ ประโคมข่าวกันดีนัก เขาเสร็จกันเรียบร้อยตามปกติ ยังประโคมข่าวปิดสนามบินกันอยู่เมื่อเช้านี้ เมื่อคืนตอนดึกเขาออกข่าวเรียบร้อย เขาเคลียร์เสร็จเรียบร้อย เครื่องบินลงได้ตามปกติ แต่เช้าออกมาไอ้พวกประโคมข่าวยังบอกปิดสนามบิน ลองช่วยแปลซิครับว่ามันเป็นยังไงครับเรื่องอย่างนี้

วันนี้นายกฯ พูดในเรื่องของอนาคตว่าทิศทางการเมืองไทย คิดว่าจะทำยังไงบ้าง
- ผมไม่ได้อะไรอื่นหรอกครับ ผมขอให้ท่านพี่น้องทั้งหลายท่านอยู่ในที่ของท่านปกติ ท่านจะแสดงอะไรเป็นยังไงก็ขอให้เป็นเรื่องประชามติกันธรรมดาๆ แสดงกัน จะตอบโต้กันยังไงก็ตามแต่ แต่ขอให้รู้ว่าบ้านเมืองเรามี 63 ล้านคน เวลานี้ผมใช้คำว่าคนหยิบมือหนึ่งปลุกระดม ถ้ากลัว บ้านเมืองพัง ฝ่ายนิติบัญญัติถ้าไปร่วมกับเขาด้วย แปลว่าคุณเห็นว่าไอ้สิ่งที่ทำผิดกฎหมายเนี่ยถูกกฎหมาย ควรจะอายตั้งแต่ขึ้นเวทีกับเขาแล้วครับ อายตั้งแต่เข้าไปเยี่ยมเยียนเขาแล้วครับ แต่หน้าไม่อายกันตั้ง 30 กว่าคนนั่นน่ะ พูดตรงไปตรงมาอย่างนี้ เดี๋ยวก็จะเจอกันในเวลาบ่ายโมงครึ่ง ดูซิว่าในสภาจะไปแก้ผ้าให้เขาดูกันอีกต่อไปมั้ย เรื่องพรรค์นี้ผมต้องรับผิดชอบครับ เรื่องนี้ไม่มีอะไรเหนือบ่ากว่าแรง มีทำได้ ทำ 1 ทำ 2 ทำ 3 บ้านเมืองก็เข้าหยุดหมด ก็อายเขาหมด เรียบร้อย สงบปุ๊บ เงียบหมด กลางคืนปิดไฟ อย่างนี้อายเขามั้ยครับ อาย ผมต้องกลั้นใจไว้ เพราะผมไม่ต้องการทำลายไอ้สถานที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลก คือเมืองกรุงเทพมหานคร แล้วจุดชนวนให้พังกันเนี่ย ลองตรองลองถามสิครับว่าใครทำให้บ้านเมืองนี้เสียหาย ผมเหรอครับ คนเขียนการ์ตูนไทยรัฐ ชัย ราชวัตร น่ะ ลองดูซะใหม่นะครับ ผมไม่ได้เรียกร้อง เขียนผิดเขียนใหม่ได้ แต่เขียนด่าผมมาซัก 20 ปีแล้ว ไม่เป็นปัญหาหรอกครับ พยายามกล่าวหาว่าความผิดอยู่ที่ผม ทั้งหมดที่เกิดเหตุเนี่ยไอ้นายสมัครทั้งนั้น ไหวมั้ยครับอย่างนี้ ไอ้คนเขียนหน้า 3 ก็เหมือนกัน ไม่รู้เกลียดชังกันมาชาติไหน เขียนด่าเอา กระทบๆ เอา อะไรลงท้ายต้องกระทบๆ คนเดียวกับคนเขียนบทนำน่ะครับ หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน หน้า 3 ไม่เคยมีอะไรดีเลยครับ อะไรคนเรามันจะเลวถึงขนาดนั้นครับเนี่ย

ม็อบฝ่ายพันธมิตรฯ ทำลายของในทำเนียบ ไม่ทราบว่านายกฯ จะจัดการยังไง ถ้าไม่รีบจัดการจะมีกลุ่มพลังเงียบออกมาจัดการ
- กรุณาอย่าฮะ กรุณาอย่า ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวดำเนินการ ผมต้องให้จบจนได้ เป็นหน้าที่ของผมต้องจัดการ ผมยืนยันว่าคนทั้งหมดมี 63 ล้านคน เด็ก ผู้ใหญ่ อะไรต่างๆ แต่คนพวกนี้มีหยิบมือเดียว แต่ว่าเขาล่อเขาหลอกจนกระทั่ง เหมือนหุ่นยนต์ล่ะครับ คนพวกนั้นเหมือนหุ่นยนต์ที่ทำได้ สั่งซ้ายหัน ขวาหัน คือถ้าคนทั้งหมดที่ออกไปเคารพนับถือไอ้คน 5-6 คนนี่ มันก็หมดแล้วครับ คนที่อยู่ไกลๆ ที่ไม่ได้ร่วมจะได้รู้เลยครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น

เสนอให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นทั่วราชอาณาจักร
- ไม่ต้องหาเรทติ้งอย่างนี้หรอกครับ ไม่ต้องนะ วันนี้ท่านทั้งบ้านทั้งเมืองนั่งฟังผมพูดก็เป็นพระคุณแล้วครับ
ขอให้ ส.ส.ของนายกฯ ลงพื้นที่สอบถามประชาชนว่าต้องการอะไรบ้าง เพราะอยากให้ทราบถึงความเป็นอยู่ ความลำบากของประชาชนด้วย
- เขาทำกันอยู่ครับ ทำกันอยู่ทุกคน ลงพื้นที่ ทั้งรัฐมนตรี ทั้ง ส.ส. ดำเนินการกันอยู่ครับ แต่เขาไม่โฆษณาเท่านั้นล่ะครับ

ขอให้ ส.ส.ของนายกฯ ลงพื้นที่สอบถามประชาชนว่าต้องการอะไรบ้าง เพราะอยากให้ทราบถึงความเป็นอยู่ ความลำบากของประชาชนด้วย
- เขาทำกันอยู่ครับ ทำกันอยู่ทุกคน ลงพื้นที่ ทั้งรัฐมนตรี ทั้ง ส.ส. ดำเนินการกันอยู่ครับ แต่เขาไม่โฆษณาเท่านั้นล่ะครับ
ไม่ต้องทำประชามติ ขอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญได้เลย
- เอาล่ะครับ เขาจะแก้เท่าที่จำเป็นต้องแก้ เขามีกรรมาธิการแล้ว เราอาศัยกรรมาธิการที่ตั้งกันไว้นะ

ไม่ต้องทำประชามติ ขอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญได้เลย
- เอาล่ะครับ เขาจะแก้เท่าที่จำเป็นต้องแก้ เขามีกรรมาธิการแล้ว เราอาศัยกรรมาธิการที่ตั้งกันไว้นะ

ขอให้ทำเรื่องหวยบนดินต่อไป
- เอาล่ะครับ ก็จะตามที่เขาถูกต้องตามกฎหมายนะครับ

ASTV ที่ศาลให้ออกอากาศได้ ปลุกปั่นประชาชนมาก ไม่เชื่อกลายเป็นเชื่อ
- ครับ ผมได้บ่นไปแล้วนะครับ

ราคาน้ำมันลดลง แต่ราคาสินค้าไม่ลดลง
- นี่เป็นปัญหา เอาล่ะครับเป็นหน้าที่ที่ผมจะต้องรับเอาไปดูแลให้นะครับเรื่องนี้

นโยบายรถไฟฟรี สายนครราชสีมา-อุดรธานี ช่วงค่ำนั้นอยากให้ปรับเวลา เพราะถึงค่ำมาก
- อันนี้เป็นรายละเอียดเทคนิคนะครับ ผมจะให้เขาดูให้

ขอแก้ปัญหาความยากจนดีกว่า บ้านเมืองจะดีเอง
- ทำอยู่ครับ มีหน้าที่ต้องดูแลเรื่องนี้อยู่ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องป้องกันไม่ให้คนมาทำลายล้างบ้านเมืองด้วย

อยากให้ดูแลอัตราดอกเบี้ยผ่อนกับธนาคาร เพราะเอาเปรียบประชาชนมาก
- เรื่องนี้สนใจอย่างยิ่งครับ สนใจอย่างยิ่ง เพราะผมเป็นคนต้องจ่ายดอกเบี้ยอย่างนี้มาก่อนเหมือนกัน แต่ก่อนไม่รุนแรงเหมือนบัดนี้ ผมจะรับไปดูแลให้นะครับ

ราคานมดิบซื้อจากเกษตรกร ครม.ให้ปรับราคาเป็น 18 บาท ขณะที่เรื่องการส่งเสริมโคนมยังไม่ปฏิบัติตามมติ ครม.เกษตรเดือดร้อน
- มติ ครม.ออกไปแล้วนะครับ ต้องปฏิบัติตาม ท่านลองบอกซิว่าเกษตรโคนมตรงไหนที่ไม่ดำเนินการ ให้แจ้งหน่อยนะ
ให้ช่วยเหลือทหารพรานโดยยุบค่ายปักธงชัย ในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 กำลังพลของเราอยู่ภาคอีสาน เดือดร้อนมาก ค่าโดยสาร ค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูง
- เอาล่ะ เรื่องนี้จะขอดูแลปรับทหารพราน เขาต้องการคนท้องถิ่น เขารับสมัครน่ะเขาต้องเอาคนท้องถิ่น ตอนแรกมันอาจจะกระจัดกระจาย เวลานี้ใช้คนท้องถิ่นครับ ตั้งขึ้นมาใหม่ท้องถิ่นทั้งนั้นครับ

ให้ช่วยเหลือทหารพรานโดยยุบค่ายปักธงชัย ในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 กำลังพลของเราอยู่ภาคอีสาน เดือดร้อนมาก ค่าโดยสาร ค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูง
- เอาล่ะ เรื่องนี้จะขอดูแลปรับทหารพราน เขาต้องการคนท้องถิ่น เขารับสมัครน่ะเขาต้องเอาคนท้องถิ่น ตอนแรกมันอาจจะกระจัดกระจาย เวลานี้ใช้คนท้องถิ่นครับ ตั้งขึ้นมาใหม่ท้องถิ่นทั้งนั้นครับ

อยากให้ช่วยเหลือเรื่องภัยแล้งนครสวรรค์
- โอ้โห ถ้านครสวรรค์แล้งจะเป็นยังไง จะไปดูให้ ต้องไปดู เป็นหน้าที่ของผมนะ

ขอให้ผลักดันให้ข้าราชการสำนักงานท่องเที่ยวครบทุกจังหวัด เดิมมี 31
- ครับ คือตั้งสำนักงานทีค่าใช้จ่ายก็มากนะครับ งบประมาณพอสมควรแต่ว่าสนับสนุนครับ เล็กบ้างใหญ่บ้าง

ช่วยกันผลักดัน พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ที่ไปทำร้ายผู้อื่น
- อ๋อสัตว์ไปทำร้ายผู้อื่น เมืองไทยไม่มี พ.ร.บ.นี้ ครับๆๆ จะรับไปดู

ช่วยกันรักษาป่าพรุที่บาเจาะด้วย
- ครับๆๆๆ

ตั้งกองทุนข้าวเหมือนกองทุนยาง เพราะว่าราคายางดีมาก
- ฮ่าๆๆ ข้าวใหญ่โตนะครับ เดี๋ยวจะรับไปรับฟังครับ

เงินช่วยเหลือคนชรายังมีอยู่หรือไม่
- มีครับ เขาว่าให้ 500 แต่ว่ายังไม่ทั่วถึงจะต้องไปตามดูให้

ผมสูบบุหรี่และกินเหล้า ขอให้พิจารณาเงินภาษีค่าบุหรี่และเหล้าด้วย
- เอาล่ะๆๆ

ก็คงเท่านี้นะครับ ผมแน่ใจเลยครับว่ารายการนี้ผมก็ยังจะทำของผมอยู่ 7 วันทีมารายงานได้ แต่ว่าขอสุดท้ายตรงนี้เขาบอกอย่างนี้นะ สายรัดข้อมือ นี่ครับ นี่นะ ราคา 159 บาท วันแม่ถึงวันพ่อ เริ่มขายกลางเดือนกันยาฯ ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นทั้งหมด เพราะงั้นรอถึงกลางเดือนกันยาฯ นี่เขาทำให้ผมเป็นพิเศษ อยู่ในระหว่างการโฆษณา อันละ 159 ทำล้านอันก็ 159 ล้าน ทูลเกล้าฯ ถวาย เจ้านายท่านทรงทำงาน ท่านไปควักเนื้อส่วนพระองค์ท่าน เราเห็นว่า โอกาสนี้ก็ทำ ถึงตอนรัชกาลที่ 5 ก็จะมีเหรียญ ก็จะทำอีกอันถวายพระเจ้าอยู่หัว เวลาหมดแล้วนะครับ เกินหน่อยขอประทานโทษด้วย วันนี้ผมชี้แจงแล้วนะครับ และยังจะชี้แจงต่อไปอีก ประเดี๋ยวจะไปชี้แจงในสภาด้วย วันนี้ลาก่อนนะครับ สวัสดีครับ

คุณคิดอย่างไรกับการกล่าวของท่านนายกสมัครล่ะครับ?

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจากhttp://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000102754

โดย นายรวมเลิศ สุภานันท์ 5131601165

นรกป่วนกรุงเหิมเกริม ขู่หาก “หมัก” ลาออกจะบุกยึดรัฐสภาทันที!!



นปก.รวมตัวปักหลักชุมุนุมหน้ารัฐสภาเพื่อมาให้กำลังใจ รบ. พร้อมขู่จะบุกยึดรัฐสภาทันที หากนายกฯ ถอดใจประกาศลาออก ขณะที่ ตร.วางกำลังเข้ม พร้อมปิดการจราจร 2 ช่อง บริเวณถนนอู่ทองใน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษวันนี้ (31 ส.ค.) ซึ่งจะเริ่มขึ้นเวลา 13.30 น. โดยเป็นการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 1 เพื่อให้ ส.ส.และ ส.ว.เปิดอภิปรายทั่วไปร่วมกันหาทางออกสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ โดยบรรยากาศที่ด้านหน้าอาคารรัฐสภา ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เริ่มมีประชาชนกลุ่มต่างๆ ทยอยเดินทางมาชุมนุมแล้วกว่า 500 คน และได้เพิ่มขึ้นกว่า1,000 คน โดยเฉพาะกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ หรือ นปก. เพื่อมาสนับสนุนและให้กำลังใจรัฐบาล โดยสวมเสื้อสีขาวและสีแดง โดยจะปักหลักชุมนุมจนกว่าการประชุมร่วมกันของรัฐสภาจะแล้วเสร็จ จากนั้นจะเดินทางกลับไปรวมกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนามหลวงต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้ชุมนุมประกาศว่าการเดินทางมาครั้งนี้เป็นความชอบธรรม เพราะมาสนับสนุนรัฐบาลที่มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่า หากนายกรัฐมนตรีประกาศลาออกจะบุกเข้ายึดอาคารรัฐสภาทันที

ขณะที่รัฐสภามีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 7 กองร้อย คอยดูแลความสงบเรียบร้อย และตรวจรถรวมถึงบุคคลที่เข้าออกอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันได้มีการปิดการจราจรบริเวณถนนอู่ทองใน 2 ช่องทาง โดยเปิดให้รถสัญจรได้เพียงช่องทางเดียว


วิเคราห์
ตามข่าวข้องต้นจะเห็นได้ว่าความไม่ลงรอยของทั้งสองฝ่ายจะทำให้เกิดการปะทะกันในอนาคตอย่างแน่นอน นอกจากนี้กลุ่มนปก.ที่มีท่าที่สนับสนุนรัฐบาลทำให้ฝ่ายรัฐบาลได้เป็นต่อขึ้นอีกนอกเหนือจากคำสั่งศาลที่ประกาศให้แกนนำทั้ง9ของพันธมิตรเป็นกบฏและให้ออกจากบริเวณทำเนียบรัฐบาลทันที

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจากhttp://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000102742

โดย นายรวมเลิศ สุภานันท์ 5131601165

พลังประชาชนงัดแผนสกปรก ระดม 7 หมื่นสมทบ"นรกป่วนกรุง"พรุ่งนี้


เวทีย่อยของ นปก. ที่เริ่มปราศรัยตั้งแต่เวลา 14.30น. โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 150-200 คน

ผู้จัดการออนไลน์-ใบสั่งการเมืองซีกรัฐบาลดิ้นระดมพลต่างจังหวัดพื้นที่ฐานเสียงของพรรคพลังประชาชน ทั้งจากบุรีรัมย์ อุดรฯ สุรินทร์ มุ่งหน้าเข้ากรุง หวังปลุกนรกป่วนกรุงกดดันพันธมิตรฯอีกครั้ง แกนนำนปก.เผยคาดไม่ต่ำกว่า 70,000 คน

แหล่งข่าวจากแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็กการ หรือนปก. เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (31ส.ค.) ในเวลา 10.00น.จะมีการรวมตัวกันของกลุ่มที่สนามหลวง และในเวลา 14.00น. จะเดินทางจากสนามหลวงไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อสมทบกับแนวร่วมจากจังหวัดทางแถบภาคอิสานเช่น จ.อุดรธานี จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ โดยกล่าวว่า จะมีจำนวนแนวร่วมจากภาคอีสานประมาณ 70,000 คน เพื่อชุมนุมและทำการขับไล่และกดดันกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานจากสนามหลวง หลังแกนนำ นปก.ประกาศยกเลิกการเคลื่อนไหวมายังสำนักงานของเครือผู้จัดการและเอเอสทีวี เนื่องจากทราบว่ามีกลุ่มพันธมิตรฯ ประมาณ 2,000 คนเดินทางมาเฝ้าที่หน้าสำนักงาน โดยระบุว่าขณะนี้บรรดา นปก.ราว 200 คนกำลังช่วยกันตั้งเวทีใหญ่เพื่อปราศรัยในคืนนี้โดยเวทีตั้งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออกของสนามหลวง หันหน้าเข้าหาวัดพระแก้ว-พระบรมมหาราชวัง

ทั้งนี้ ระหว่างที่รอตั้งเวทีใหญ่เสร็จในเวลา 14.30น. แกนนำกลุ่ม นปก. ได้ใช้เวทีปราศรัยเล็กที่ตั้งหันหลังให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ขออาสาสมัครผู้ที่มีความสามารถขึ้นปราศรัยบนเวที ขณะที่สถานีวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ 97.25 MHz ซึ่งทราบกันดีว่าเป็นสถานีที่ใช้ปลุกระดมของกลุ่มนปก. และเป็นเครือข่ายเดียวกันกับ "ดา ตอร์ปิโด" น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ได้ประกาศเชิญชวน นปก. ให้เข้ามาชุมนุมในครั้งนี้โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถแท็กซี่ให้หยุดงานและนำรถเข้ามาร่วมที่สนามหลวง เพื่อรอรับ นปก.ที่จะมาจากต่างจังหวัด นอกจากนี้ในคืนนี้จะมีบรรดาแกนนำเช่น นายวีระ มุสิกพงษ์ ที่เพิ่งถูกดำเนินคดีหมิ่นเบื้องสูงมาขึ้นเวทีด้วย

ทั้งนี้ ที่สนามหลวงในวันนี้ได้มีประชาชนสวมเสื้อสีฟ้าจำนวนหนึ่งที่เดินทางมาจากจังหวัด และใช้สนามหลวงเป็นจุดจอดรถ เพื่อเข้าร่วม โครงการ "จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน สร้างสามัคคี" ที่อาคารใหม่สวนอัมพร ในเวลา 15.00 น. โดยการเข้าร่วมดังกล่าวเป็นการเกณฑ์มาจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวรายงานระบุว่ารัฐบาลและพรรคพลังประชาชนจะใช้โอกาสนี้ระดมคนมาจากทั่วประเทศเพื่อต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจากhttp://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000102632

โดย นายรวมเลิศ สุภานันท์ 5131601165

เกียรติ ตร.ของไทย คือ เหยียบหัวประชาชน!


ภาพจากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์

รวมภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2551 หลังจากที่วานนี้ (29 ส.ค.) รัฐบาลได้สั่งการให้ตำรวจใช้กำลังติดอาวุธในการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 11.00น. ณ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ในทำเนียบรัฐบาล รวมถึงในช่วงหัวค่ำที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลอีกด้วย

คำสั่งสลายและใช้ความรุนแรงดังกล่าวของส่งผลให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง ผู้สูงอายุ นอกจากนี้ตำรวจยังใช้กำลังเข้าทำลายทรัพย์สินของกลุ่มพันธมิตรอีกด้วย


ปกและภาพหน้าหลังของบางกอกโพสต์


ปกและภาพหน้าหลังของเดอะ เนชั่น


ปกของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์


ปกของหนังสือพิมพ์คมชัดลึก


ปกของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ


ปกของหนังสือพิมพ์ข่าวสด


ปกของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน


ปกของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์

วิเคราะห็
จากภาพตามสื่อต่างๆจะเห็นได้ว่าภาพลักษณ์ของรัฐบาลตกต่ำลงไปมากจากสายตาของประชาชนส่วนใหญ่และสื่อมวลชน ซึ่งทำให้มีผู้สนับสนุนรํฐบาลน้อยลงไปอีกจึงคาดคะเนได้ว่ารัฐบาลในเวลานี้เข้าตาจนแล้ว

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจากhttp://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000102660

โดย นายรวมเลิศ สุภานันท์ 5131601165

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

"สมัคร"บินเข้าเฝ้าฯ ในหลวงที่ประจวบฯ - คาด"ยุบสภา"



"สมัคร"ขึ้นเครื่อง ขสทบ.เดินทางเข้าเฝ้าฯ ในหลวงที่ อ.หัวหินแล้ว คาดบินกลับก่อนเที่ยง เพื่อเข้าเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระบรมฯ ในพิธีมอบธงสัญลักษณ์งาน"116 วัน สร้างสามัคคี" เผยอาจตัดสินใจยุบสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ที่ผ่านมา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปขึ้นเครื่องบินของกรมการขนส่งทหารบก ภายในบริเวณสนามบิน บน.6 ดอนเมือง เพื่อเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประวบคีขันธ์ รายงานข่าวแจ้งว่า การเดินทางไป อ.หัวหินครั้งนี้ นายสมัคร จะเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อกราบบังคมทูลรายงานถึงปัญหาของบ้านเมือง หลังจากนั้นนายสมัครจะเดินทางกลับในเวลาก่อนเที่ยง และจะเข้าเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฏราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ในพิธีพระราชทานธงสัญลักษณ์โครงการ "จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน สร้างสามัคคี" ที่อาคารใหม่สวนอัมพร ในเวลา 15.00 น. ทั้งนี้ เป็นที่คาดหมายกันว่าภายหลังการเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นายสมัครอาจจะตัดสินใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งคาดหมายกันว่านายสมัครน่าจะเลือกใช้วิธีการยุบสภา มากกว่าลาออก

ขอขอบคุณแหล่งข่าวโดย ผู้จัดการออนไลน์http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.

โพสต์โดย น.ส.กนกวรรณ ชูจิตต์ประชิต ID 5131601220
30 สิงหาคม 2551 09:55 น
.

ด่วน!สัญญาณนกหวีดรัฐเถื่อน!รื้อเวทีมัฆวาน-ระดมแก๊สน้ำตา!!!




















สัญญาณร้ายนกหวีดรัฐตำรวจเถื่อน กำลังออกทำร้ายประชาชน พลังกู้ชาติแล้ว


โดยใช้มาตรการปิดล้อม ก่อนเข้าสลาย ขณะที่ความวุ่ยวายกำลังจะเกิดขึ้น วันนี้(29 ส.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการปิดหมายศาลแพ่งของ เจ้าพนักงานบังคับคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ และตัวแทนโจทก์ ที่บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล เพื่อสั่งให้ พันธมิตรออกจากทำเนียบรัฐบาล ว่าขณะนี้ได้มีเหตุความไม่สงบเกิดขึ้นในหลายจุด โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลายกองร้อยเข้าปฎิบัติการณ์ พร้อมกับทำการรื้อสิ่งของ เต้น และสิ่งกีดขวาง ออกจากพื้นที่ โดยที่บริเวณเวทีสะพานมัฆวาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปพยายามที่จะทำการรื้อถอน โดยมีกลุ่มพันธมิตรฯเข้าไปล้อมเวทีเอาไว้ ส่วนรถกระบะที่เปิดเครื่องเสียงเพลงปลุกใจตำรวจ ได้ขับวนไปบริเวณรอบๆโดยมี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 อยู่บนรถนอกจากนั้นที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 2 กองร้อย พร้อมโล่ และกระบอง โดยเตรียมจะปฎิบัติการเข้าสลายทันที หลังได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ล่าสุด ที่บริเวณประตู 5 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการจับกุมการฺดพันธมิตรขึ้นรถผู้ต้องหาไปแล้ว 20 คน ขณะเดียวกันที่บริเวณด้านถนนพิษณุโลก ระหว่างสำนักงานปปช.กับกองท่พภาคที่ 1 กำลังตำรวจปราบจราจล พร้อมโล่และกระบอกจำนวนมาก เตรียมพร้อมที่จะเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่อยู่บริเวณรอบนอกกำแพงทำเนียบรัฐบาล
สำหรับความเคลื่อนไหวของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ล่าสุด ตำรวจได้ตรงเข้ารื้อเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรที่บริเวณสะพานมัฆวานแล้ว โดยมีการปะทะกับกลุ่มพันธมิตรกันเล้กน้อย ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯไม่สามารถต้านทานกำลังของตำรวจได้ ขณะเดียวกัน กำลางตำรวจจำนวนหนึ่ง พร้อมอาวุธปืนยิงแก๊งน้ำตา ได้เดินทางเข้าไปยังบริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ส่วนที่บริเวณหน้าพาณิชยการพระนคร กำลังตำรวจจำนวนมาก ยังึคงตรึงกำลังอยู่ พร้อมรอคำสั่ง

ขอขอบคุณข่าวจาก http://www.postjung.com/

โพสต์โดย
น.ส. เกษศิณี กรกนก ID:5131601012
น.ส.วรรณิศา ธะนาคำID:5131601169

บทวิเคราะห์
เห็นด้วยกับการสลายการชุมนุมในครั้งนี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ถ้าหากสลายได้มากกว่านี้ คงดี การเดินทางคงจะสะดวกขึ้น จะได้ไม่มีข่าวเกี่ยวกับการชุมนุมอีก รัฐบาลจะทำอะไรควรรียทำก่อนที่ชื่อเสียงประเทศจะแย่ไปกว่านี้


พันธมิตรฯ ผวาพบอาวุธเพียบ บรรจุ3ลังวางในอาคารประตู4!!!


ม็อบพันธมิตรฯผวาหลังพบอาวุธอยู่ในลัง 3 ลัง ภายในอาคารรักษาการณ์บริเวณประตู 4 ด้านจำลอง ศรีเมือง ปลุกม็อบตื่น เตรียมพร้อมรับมือรุ่งสาง
(29ส.ค.) เวลา 04.00 น.เรือตรีแซมดิน เลิศบุตรี อายุ 55 ปี ตัวแทนกองทัพธรรมและนายกิตติชัย ใสสะอาด 45 ปี หัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯเดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.เอกพล ทวิวงศ์ไชยกุล สารวัตรเวรสน.ดุสิตว่า พบอาวุธสงครามชนิดเอ็ม 16 จำนวน 17 กระบอก กระสุน 6,000 นัด ปืนเอชเค 13 กระบอก กระสุน 440 นัด อาวุธปืนขนาด.38 และกระสุน 2,400 นัด ซุกอยู่ในลัง 3 ลัง และถูกใช้ไปแล้วบางส่วน ภายในอาคารรักษาการณ์ตำรวจสันติบาล บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เวลาเที่ยงคืน แกนนำพันธมิตรฯได้สั่งให้เปิดแนวรั้วเหล็กของตนเองที่กั้นอยู่ประตู 7 ทำเนียบรัฐบาล และให้ผู้ชุมนุมคล้องแขนเป็นแถวเพื่อเตรียมผลักดันตำรวจออกจากพื้นที่การชุมนุมภายในทำเนียบรัฐบาล หลังจากนั้น 20 นาทีนายอมร อมรรัตนานนท์ แกนนำพันธมิตรฯเจรจากับ พ.ต.อ.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช ให้ตำรวจออกนอกพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล
โดยตำรวจขอประวิงเวลาการถอนกำลัง แต่พันธมิตรฯระบุว่า ได้ประสานตำรวจตั้งแต่ช่วง 21.00 น.แต่เจ้าหน้าที่ไม่ตอบสนอง จะให้เวลาตำรวจอีก 15 นาที จากนั้น พ.ต.อ.อุทาสิน ขอตัวไปประสานกับผู้บังคับบัญชาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามภายหลังการเจรจาไม่สำเร็จ กลุ่มพันธมิตรฯได้รวมตัวกันเดินประชิดตำรวจเพื่อให้ออกจากพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล โดยตำรวจทำได้เพียง ยกโล่ขึ้นป้องกันและถอยร่นออกไป ซึ่งตำรวจมี 200 -300 นาย ถอยร่นออกนอกพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลทั้งหมด
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯขึ้นเวทีปราศรัยว่าตลอดทั้งวันที่ผ่านมามีการปล่อยข่าวอย่างต่อเนื่องว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าสลายการชุมนุม ตนไม่อยากให้พี่น้องที่มาร่วมปักหลักชุมนุมตกอกตกใจ ตนขอให้ทุกคนอยู่ชุมนุมกันต่อไป
จากนั้น นายสำราญ รอดเพชร กล่าวว่า ได้รับจดหมายน้อยจาก พล.ต.จำลอง ให้นำมาอ่านให้รับทราบทั่วกันว่า มีนายตำรวจยศนายพล เข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรนได้เล่าให้พล.ต.จำลอง ว่า ช่วง 05.00 - 08.00 น. เป็นช่วงที่ผู้ชุมนุมต้องเดินทางกลับ เป็นช่วงที่มีผู้ชุมนุมน้อยลง อาจทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาช่วงนี้เข้ามาสลายการชุมนุมได้
ดังนั้น พล.ต.จำลอง อยากขอร้องให้ผู้ที่อยู่นอกรั้วทำเนียบฯเข้ามาอยู่ภายในเวลาดังกล่าว เป็นการทดแทน นายตำรวจคนดังกล่าวยังแจ้งแผนการสลายการชุมนุมว่า หากช่วงเวลาที่มีผู้ชุมนุมน้อย ตำรวจก็จะเตรียมกำลังประมาณ 7,000 นาย ปีนข้ามกำแพงด้านหลังทำเนียบฯเข้ามา จากนั้นจะทำการผลักดันผู้ชุมนุมออกจากทำเนียบฯ ไปยังสะพานชมัยมรุเชษฐ และจะใช้หน่วยจู่โจม เข้าจับกุมแกนนำฯทันที จึงอยากขอให้ผู้ชุมนุมอยู่ร่วมในเวลาดังกล่าว เพราะหากมีผู้ชุมนุมอยู่มาก เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถเข้าสลายการชุมนุมได้
วิเคราะห์
จากข่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่ามีการเดินเกมกันอย่างระมัดระวังคำกล่าวอ้างของพล.ต.จำลองที่ว่ามีนายตำรวจยศนายพลให้ข่าวไว้อาจจะเป็นการอ้างที่ไม่เป็นความจริงก็ได้เพราะจากสถานการณ์เช่นนี้สามารถคาดคะเนการเคลื่อนไหวของตำรวจได้ นอกจากนี้อาวุธที่พบน่าจะจัดเตรียมไว้สำหรับการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร ขณะนี้สถานการณ์ใกล้ถึงจุดแตกหักเต็มทีแล้ว ขอให้ผู้อ่านblogของพวกเราติดตามข่าวสารทุกชั่วโมงเลยนะครับ
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจากhttp://news.sanook.com/politic/politic_300543.php
โดย นายรวมเลิศ สุภานันท์ ID.5131601165

<< ประมวลภาพ เมื่อตำรวจ และ พันธมิตร ต้องทำหน้าที่ของตนเอง >>


จากเหตุการณ์ที่ตำรวจบุกตำรวจเข้าสลายยึดเวทีสะพานมัฆวาน หรือบริเวณทำเนียบรัฐบาลกับกระทรวงศึกษาธิการ ต่างก็เกิดการปะทะ กันบ้าง ต่างๆฝ่ายก็ได้ออกมาแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นธรรมของฝ่ายตรงข้าม รวมไปถึงเหตุการณ์ที่พันธมิตรนำรถ 6 ล้อมายึดพื้นที่ถนนราชดำเนินคืน ทางเราก็จะนำรูปมาให้ท่านชมถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา



กลุ่มพันธมิตร ยืนอยู่ใกล้าคุณตำรวจที่เตรียมพร้อมบริเวณสพานมัฆวาน



คุณตำรวจเริ่มปฏิบัติการเข้ารื้อถอนแผงเหล็กกั้นของกลุ่มพันธมิตรบริเวณสะพานมัฆวานฯ พันธมิตรก็สู้สุดตัว


เกิดการปะทะนิดหน่อยครับท่านพี่น้อง



นี่คือภาพที่พันธมิตรอ้างว่าถูกทำร้าย



ตำรวจก็ไม่น้อยหน้าครับ โดนเหมือนกันเต็มพุงเลยครับ

แล้วเราจะเพิ่มเติมกันใหม่นะครับ สำหรับรูปภาพ แต่ว่าท่านผู้ชมหล่ะครับ คิดอย่างไรบ้างกับเหตุการณ์เหล่านี้ ประชาชนทั่วไปเค้าเห็นด้วยหรือไม่ การกระทำของทั้ง 2 ฝ่ายนั้นจะทำให้เกิดผลไรขึ้นตามมา เรามาวิเคราะห์ร่วมกันว่า เหตุการณ์เหล่านี้ฝ่ายใดเป็นฝ่ายทำเกินกว่าเหตุ หรือ ทำถูกแล้ว และจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกในอนาคต

ขอขอบคุณ รูปภาพจาก
จัดทำโดย
1. นายณัฐชัย ณ ลำปาง รหัส 5131601061
2.นายรวมเลิศ สุภานันท์ รหัส 5131601165
3.น.ส.วิชญ์สุภา ชลสวัสดิ์ รหัส 5131601175

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

พันธมิตร 14 จว.ใต้ออกประกาศ "สมัคร" เป็นบุคคลต้องห้าม! อย่าเข้ามาในพื้นที่แต่ตารางนิ้วเดียว!!!

ประสานงานเครือข่ายพันธมิตร 14 จังหวัดภาคใต้ ออกแถลงการณ์ตอบโต้รัฐบาลหลังออกหมายจับ 9 แกนนำ ประกาศ"สมัคร"เป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในพื้นที่แม้ตารางนิ้วเดียว

เมื่อ เวลา 09.00 น.วันที่ 29 สิงหาคม 2551 นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตร 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า หลังจากกลุ่มพันธมิตรในส่วนกลางได้เข้ายึดทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม และรัฐบาลได้ใช้มาตรการต่างๆ ในการกดดันกลุ่มพันธมิตรมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ การออกหมายจับ 9 แกนนำในข้อหากบฏซึ่งเป็นข้อหาที่ร้ายแรง ทำให้เครือข่ายพันธมิตร 14 จังหวัดภาคใต้มีมติร่วมกันในการออกแถลงการณ์ 3 ข้อคือ

1.พันธมิตรใน 14 จังหวัดภาคใต้จะระดมมวลชนในพื้นที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อ ร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรที่ทำเนียบรัฐบาลอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง ในลักษณะของการผลัดเปลี่ยนกำลังของมวลชนในแต่ละจังหวัด จนกว่าจะได้รับชัยชนะ ส่วนประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯได้ ขอให้ทำสัญลักษณ์สีเหลือง เช่น ริบบิ้นสีเหลืองผูกข้อมือ หรือผ้าพันคอสีเหลือง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าชาวใต้ปฏิเสธรัฐบาลนอมินีทักษิณชุดนี้โดยสิ้นเชิง

2. ประกาศให้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลต้องห้ามสำหรับชาวใต้ ห้าม นายสมัคร สุนทรเวช เข้ามาในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้แม้แต่ตารางนิ้วเดียว หากนายสมัครยังคงดื้อดึงจะได้รับการต่อต้านจากมวลชนในภาคใต้ทุกรูปแบบอย่างเต็มที่

3. ขอให้ประชาชนใน 14 จังหวัดภาคใต้ หยุดให้การสนับสนุนหรือให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการที่มีส่วนในการ ดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลนอมินีทักษิณ พร้อมทั้งให้ประชาชนชะลอการจ่ายภาษีให้รัฐบาลชุดนี้ ยกเว้นการจ่ายภาษีท้องที่

ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวลงนามโดย นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตร 14 จังหวัดภาคใต้ และแกนนำพันธมิตร 14 จังหวัดภาคใต้ นอกจากนั้น ยังมีรายงานจากแหล่งข่าวในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หลายแห่ง เช่น เทศบาลตำบล และ อบต.ว่า ได้รับการร้องขอจากกลุ่มพันธมิตรในส่วนกลาง ขอให้จัดเตรียมมวลชนในพื้นที่ เพื่อพร้อมเดินทางขึ้นไปสมทบกับกลุ่มพันธมิตรที่กรุงเทพฯ

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
โพสโดย กฤตย์ อิสสระพันธุ์ ID:5131601231

แสดงความคิดเห็น
ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับ ข่าวนี้ครับ เพราะสมัครเป็น นอมินี ของทักษิน ไม่สมควรจะมาเป็นนายก เลยด้วยซ้ำ
แถมยังโกงชาติอีก

ตร.ทำเนียบ สติแตก “นาย” ปล่อยอดอยาก ปีนรั้วหนีกลับบ้าน


ตำรวจทำเนียบ สุดอ่อนล้า “นาย” ไม่เหลียวแล ขาดกำลังเสริมและเสบียงกรัง ดอดปีนรั้วหนีกลับบ้านกันจ้าละหวั่น ขณะที่ “การ์ดอาสาพันธมิตรฯ” เห็นใจ ช่วยอำนวยความสะดวกเปิดทางให้กลับบ้าน

วันนี้ (28 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำเนียบรัฐบาล ว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.มีนายตำรวจที่รักษาความปลอดภัย ประจำอยู่ในทำเนียบรัฐบาลกว่า 20 นาย ต่างพากันปืนรั้วออกจากทำเนียบ ทางฝั่งตรงข้ามสำนักงานยูเอ็น เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยมีการ์ดพันธมิตรฯบางส่วนช่วยอำนวยความสะดวกในการออกจากพื้นที่ทำเนียบด้วย ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า นายตำรวจเหล่านั้น แต่งชุดเครื่องแบบสีกากี บางส่วนได้ถอดหมวกถอดเสื้อออก เพื่อปีนรั้ว อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นายตำรวจส่วนใหญ่ต่างเหนื่อยล้ากับการดูแลความปลอดภัยมานานหลายวันแล้ว โดยไร้การเหลียวแลจากตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งไม่มีการส่งกำลังมาสับเปลี่ยน และไม่มีการส่งเสบียงอาหารที่เพียงพอมาให้อีกด้วย จึงได้ตัดสินใจที่จะปีนหนีเพื่อกลับบ้าน
โพสโดย น.ส. เกษศิณี กรกนก ID:5131601012
ความคิดเห็นส่วนตัว คุณตำรวจเค้ามารักษาความปลอดภัยให้ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ นะค่ะคุณๆที่เป็นเจ้านายก็ช่วยดูแลเค้าหน่อยนะค่ะอย่าทิ้งตำรวจชั้นผู้น้อยสิค่ะเค้าทำงานกันเหนื่อยๆ
ป.ล. เป็นกำลังใจให้ตตำรวจทุกนายสู้ๆค่ะ

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

“นักวิชาการ” ชี้ข้อหากบฏแรงเกินเหตุ จี้ “หมัก” ลาออก

นักวิชาการจากสถาบันชื่อดัง ประสานเสียงโต้ข้อหากบฏรุนแรงเกินเหตุ หวังกำจัดแกนนำพันธมิตรฯ ให้พ้นทาง ชี้การชุมนุมภาคประชาชนอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ล้มล้างรัฐบาล เตือนอย่าใช้ความรุนแรง เชื่อเหตุการณ์บานปลาย จี้ “สมัคร” ลาออก

วันนี้ (28 ส.ค.) นายประเสริฐ ชิตพงศ์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.สงขลา เปิดเผยว่า ข้อหากบฏที่ตำรวจแจ้งต่อแกนนำพันธมิตรฯ เป็นข้อหาที่รุนแรงเกินเหตุ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการตั้งข้อหารุนแรงน่าจะมีเจตนาแอบแฝงที่ไม่ต้องการให้มีการประกันตัว เพื่อจะได้หยุดการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ขณะเดียวกัน นายประเสริฐ เห็นว่า การชุมนุมที่ผ่านมาถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองของภาคประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลที่ถูกมองว่าบริหารงานผิดพลาดจึงได้เรียกร้องให้ลาออก ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ และไม่ใช่เป็นการใช้กำลังล้มล้างรัฐบาล

ด้าน นายสุริชัย หวันแก้ว ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ เห็นด้วยว่า เป็นการตั้งข้อกล่าวหาที่รุนแรงเกินเหตุ ซึ่งการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นการเคลื่อนไหวภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ยึดแนวทางสันติวิธี และมองว่าการบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์เอ็นบีทีมีส่วนทำให้ภาพลักษณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ เสียหาย

ส่วน นายสุรชัย ศิริไกร อดีตคณบดี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เห็นสอดคล้องกันว่า การตั้งข้อหากบฏเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงมาก ไม่มีเหตุผลรองรับ โดยเห็นว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เรียกร้องรัฐบาลให้ลาออกเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบของประชาชนที่สามารถกระทำได้ และเห็นได้ว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาไม่ได้ใช้ความรุนแรงใดๆ แม้จะมีเหตุกระทบกันบ้าง ขณะบุกยึดสถานที่ราชการบางแห่ง แต่ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นใช้กำลังเข้าล้มล้างระบอบการปกครองที่เป็นเหตุให้ทางรัฐบาลใช้เป็นสาเหตุตั้งข้อหา มีการกระทำอันเป็นกบฏ

ขณะเดียวกัน นายสุรชัย กล่าวเตือนรัฐบาลว่า หากใช้มาตรการรุนแรงเข้าปราบปราม เชื่อว่าประชาชนจะไม่ยอม และอาจลุกลามขยายตัวออกไป นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีทบทวนตัวเองด้วยการลาออก ซึ่งก่อนหน้านี้ กรุงเทพโพลล์ ได้สำรวจความเห็นคนกรุงเทพฯ 1,023 คน พบว่า ร้อยละ 65 เห็นว่าควรเปลี่ยนรัฐบาล

วิเคราะห์
จากบทวิเคราะห์ดังกล่าวจากนักวิชาการส่วนใหญ่เห็นว่าฝ่ายรัฐบาลทำเกินกว่าเหตุที่ตั้งข้อกล่าวหาแจ้งจับแกนนำกลุ่มพันธมิตรในข้อหากบฏทั้งนี้ความเห็นของนักวิชาการจะมีผลอย่างกว้างขวางต่อแนวความคิดของประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างมาก ตามที่กล่าวมาข้างต้นการกระทำดังกล่าวตำรวจจะยิ่งทำให้เหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นอีกระดับ

ที่มาhttp://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000101720

โดย นายรวมเลิศ สุภานันท์ ID.5131601165

“สนธิ” ประกาศกร้าว ยึดทำเนียบถึงวันอาทิตย์ มั่นใจชนะแน่!


“สนธิ” ขึ้นเวทีประกาศต่อหน้าผู้ชุมนุม แฉ ตร.เอาความเท็จไปแจ้งศาลให้ออกหมายจับแกนนำ อัดกลับ “หอกหักหมัก และพวก” คือ “กบฏตัวจริง” หวังล้มล้าง รธน.แบ่งแยกราชอาณาจักร แถมยังโกหกว่าพระบรมฯ จะใช้พื้นที่ทำเนียบ 30 ส.ค.นี้ เผยเช็กกองราชเลขาฯแล้วไม่มีหมายกำหนดการใช้พื้นที่ทำเนียบ พร้อมปลุกประชาชนสู้ไม่ถอย ลั่นยึดทำเนียบถึงวันอาทิตย์นี้ เชื่อชัยชนะเป็นของประชาชนแน่
วันนี้ (28 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.20 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีอ่านจดหมายของ ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ ที่เขียนจดหมายให้กำลังแกนนำพันธมิตรฯ และผู้ชุมนนุมให้ยืนหยัดสู้ต่อไป อย่าได้เกรงกลัวรัฐบาลหุ่นเชิด
จากนั้น นายสนธิ กล่าวปราศรัยต่อผู้ชุมนุมว่า เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) ตำรวจได้เอาความเท็จไปขอหมายศาลอาญามาจับแกนนำพันธมิตรฯ โดยอ้างกฎหมายมาตรา 113 ว่าผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญให้ถือเป็นกบฏ แต่ที่ผ่านมาตั้งแต่เราชุมนุมเมื่อวันที่ 25 พ.ค.เราออกมาต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราออกมาปกป้องรัฐธรรมนูญ แล้วมี นปก.มาประทุษร้ายเรา อย่างนี้พวกมันต้องการล้มล้างรัฐธรรมนูญใช่ไหม แล้วตำรวจทำ อะไรอยู่ ขณะเดียวกัน ส.ส.พรรคพลังประชาชนทั้งพรรคต้องการแก้รัฐธรรมนูญ ล้มล้างรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ ตำรวจยังอ้างมาตรา 11 กล่าวหาว่าเราต้องการล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ หรือใช้อำนาจดังกล่าวไม่ได้ แต่ขณะนี้ ส.ส.ยังมีการประชุมสภาอยู่ ยังแต่งตั้งตำรวจ ทหารได้ ศาลยังปฏิบัติหน้าที่ออกคำสั่งได้ตามปกติ แล้วกล่าวหาเราไปล้มล้างได้อย่างไร อีกทั้งยังกล่าวหาเราว่าล้มล้างแบ่งแยกราชอาราจักรถือเป็นกบฏ ใครกันแน่ที่ยกเขาพระวิหารให้เขมร ตำรวจต้องไปขอหมายจับนายสมัคร สมัครคือกบฏในราชอาณาจักร
“พอเป็นนักการเมือง เป็นรัฐบาล ถือว่าเป็นรัฐ ตัวเองชั่วเน่าเหม็นล้มล้างรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาว่าแถลงการณ์ที่ทำร่วมกับเขมรขัดรัฐธรรมนูญเพราะต้องผ่านสภา ดังนั้น ถือเป็นโมฆะ มันก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ทั้งที่จริงต้องแจ้งไปเขมร แจ้งให้ยูเนสโกรู้ แต่ก็ไม่ได้ทำ พี่น้องดูสิว่าใครกันแน่ที่ล้มล้างเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ไอ้หอกหักยังสะเออะเอาตำรวจโง่ๆ ขอหมายศาลมาจับแกนนำพันธมิตรฯ อีก”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า เมื่อ คมช.ปฏิวัติ พ.ต.ท.ทักษิณ มีข้อหาอยู่ 4 ข้อ แต่วันนี้นายสมัครทำเกิน 6-7 ข้ออย่างหน้าด้าน ไม่เกรงกลัวฟ้าดิน แล้วการที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ บอกว่าขอให้เราออกจาทำเนียบเนื่องจากพระบรมฯ จะเสด็จฯ มาพื้นที่ในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ไปเช็กกองราชเลขาฯ แล้ว สมเด็จพระบรมฯ จะไม่ใช้ทำเนียบวันที่ 30 ส.ค.นี้ มุกนี้มันใช้ได้เฉพาะ นปก. ใช้กับสังคมอุดมปัญญาแบบเราไม่ได้ วันนี้วันพฤหัสฯ อย่าหาว่าเราขอเพิ่มเติมเลย เราอยู่ถึงวันอาทิตย์เราชนะแน่นอน พ่อแม่พี่น้องเรียกคนมาให้เยอะตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้จนถึงวันวันอาทิตย์เราชนะแน่นอน
นอกจากนี้ นายสนธิ ยังฝากถึง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง ที่ฝากผู้สื่อข่าวมาบอกตนว่า ให้คำนึงถึงวุฒิภาวะของการเป็นผู้นำ ที่เอาผู้หญิงและคนแก่มาเป็นกำแพงว่า ตนบังคับใครมาเป็นกำแพงหรือเปล่า เขามากันเองทั้งนั้น พ่อท่านอโศก ตนก็ไม่ได้บังคับ ท่านมากันเอง ไอ้พวกตำรวจไม่เคยเข้าใจการเมืองภาคประชาชน เพราะเป็นตำรวจหวังลาภยศ เอาใจเจ้านายสถุนๆ เมื่อสักครู่ตนฝากบอกนักข่าวให้ช่วยบอกรองโฆษก ตร.ว่าให้หาองค์ความรู้มากกว่านี้ ยังสู้พี่น้องที่ชุมนุมในที่นี่ไม่ได้เลย เป็นนายพลมาได้อย่างไร นี่คือคุณภาพข้าราชการตำรวจชั้นสูงของไทย
วิเคราะห์
คำกล่าวดังกล่าวมีการกล่าวในลักษณะปลุกระดมและขาดหลักฐานรวมถึงเหตุผลที่มีน้ำหนักชัดเจน การชุมนุมที่เกิดขึ้นส่งผลภาพลบต่อรัฐบาลและทำให้ประเทศขาดเสถียรภาพทางการเมืองซึ่งทางรัฐบาลจะต้องเดินเกมอย่างระมัดระวังไม่ทำอะไรที่รุนแรงซึ่งจะทำให้เกิดการต่อต้านมากขึ้นเป็นการเข้าทางกลุ่มพันธมิตรทันที
โดย นายรวมเลิศ สุภานันท์ ID.5131601165

ท่านคิดยังไรกับการเมืองในปัจจุบันนี้

ป้ายกำกับ