เชียร์ 51

ข่าวเด็ด

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สส.พปช.ส่งเอกสารทูตผู้ดี แฉขบวนการโค่นทักษิณ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ส.ค.)


นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพลังประชาชน นำซองเอกสารปิดผนึกแถลงกับสื่อมวลชน ระบุเป็นข้อเท็จจริงประกอบกับข้อกฎหมายและความคิดเห็น และว่าจะเข้าพบเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อมอบเอกสารดังกล่าวผ่านไปยังรัฐบาลอังกฤษ เชื่อว่าหากรัฐบาลอังกฤษได้เห็นจะทำให้ทราบว่าที่ผ่านมามีขบวนการที่ต้องการโค่นล้ม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างไม่เป็นธรรม

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าตนไม่ได้ต่อว่าศาล แต่เป็นขบวนการที่เกิดขึ้นก่อนนำเรื่องขึ้นสู่ศาล ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า ประเทศอังกฤษซึ่งเป็นแม่แบบของประชาธิปไตย หากได้เห็นเอกสารของตนแล้ว จะเชื่อในความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และการที่ไม่มอบเอกสารให้กับสื่อมวลชนไทย เพราะเห็นว่ามีรายละเอียดที่ซับซ้อนและเนื้อหาค่อนข้างมาก หากมีการนำเสนอไม่ครบถ้วนก็อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดพลาดได้

ส.ส.เชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า การมอบเอกสารให้รัฐบาลอังกฤษเป็นการให้ข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่ง เนื่องจากขณะนี้มีบางขบวนการที่ยกพวกไปกดดันทางการอังกฤษ อย่างไรก็ตาม นายสุรพงษ์ ปฏิเสธไม่ทราบข้อเท็จจริงกับข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ยื่นเรื่องขอลี้ภัยทางการเมืองแล้ว



ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ http://www.thairath.com/online.php?section=newsthairathonline&content=101412

ผู้จัดทำ นายณัฐชัย ณ ลำปาง ID 5131601061

สำนวนยุบพรรค ปชป.สรุป ศุกร์นี้


กรรมการการเลือกตั้ง ยันไม่ยื้อเวลาสอบยุบพรรคประชาธิปัตย์ ขณะมีรายงานคณะอนุกรรมการ ฯ เลื่อนสรุปสำนวนเป็นวันศุกร์นี้

นายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาสำนวนการยุบพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการสรุปสำนวนของคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มี นายสุธน แสงสายัณห์ เป็นประธาน ซึ่งก็ได้ติดตามอยู่เป็นระยะและไม่อยากไปกดดัน ทั้งนี้ยืนยันไม่มีการยื้อเวลาอย่างแน่นอน และทราบว่าคณะอนุกรรมการจะทำความเห็นต่อประธาน กกต. ในวันที่ 20 ส.ค. นี้ จากนั้นจึงจะนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต.เพื่อพิจารณาต่อไป ขณะนี้มีรายงานว่าคณะอนุกรรมการสืบสวนได้เลื่อนการสรุปสำนวนยุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากอนุกรรมการสอบสวนบางท่านติดภารกิจ ทำให้ไม่สามารถประชุมในวันนี้ได้และเลื่อนการประชุมไปเป็นวันศุกร์นี้

http://www.innnews.co.th/politic.php?nid=128006

จัดทำโดย นายณัฐชัย ณ ลำปาง ID 5131601061

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ศาลไทยมีมาตราฐานเดียว!

ภายหลังที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ร่อนคำแถลงการณ์เรื่องการไม่ไปรายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง และเดินทางไปประเทศอังกฤษ ซึ่งในถ้อยคำแถลงการณ์ได้ถูกหลายฝ่ายตีความกันอย่างมากมายหลายมิติ ซึ่งผมคิดว่าการตีความแถลงการณ์ นั้นขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละกลุ่ม


ซึ่งก็มีวัตถุประสงค์แตกต่างกัน หากในมุมมองของศาลก็อาจเป็นลักษณะไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม ศาลก็จะเสียหาย แต่ลักษณะของกระบวนการยุติธรรม ที่เป็นคดีทางการเมือง ที่มีการพูดว่า ไม่ยุติธรรม มักจะเกิดกรณีการจัดตั้งศาลพิเศษ พิจารณาตัดสิน กรณีนี้มีการตั้ง คตส.ไม่ใช่ศาล แต่ทำหน้าที่ไต่สวน การพิพากษา เป็นเรื่องของศาลปกติ โดยความเป็นจริงหากข้อมูล หลักฐาน ไม่มีน้ำหนัก ศาลจะยกฟ้อง เวลาศาลตัดสินคนที่ชนะก็จะเคารพคำตัดสินของศาล คนที่แพ้ก็มักจะรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม เป็นธรรมชาติของมนุษย์ คนอื่นฟังแต่ไม่เห็นข้อมูล แต่ศาลได้เห็นหลักฐานของทั้ง 2 ฝ่าย ผู้พิพากษามีประสบการณ์ยาวนานในวิชาชีพ เราให้ความสำคัญกับคดีทางการเมือง ว่า ต้องถูกการกลั่น กรองจากผู้มีประสบการณ์จริงๆ ให้เป็น "ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง" ต้องผ่านประสบการณ์การวินิจฉัยปัญหาอย่างเชี่ยวชาญ ผมเชื่อ โดยไม่มีข้อสงสัยในระบบกระบวนการยุติธรรม แม้ขั้นต้นบอกว่า จะมาโดยน่าสงสัย แต่หากนำขึ้นไป แล้วข้อมูลไม่น่าเชื่อถือศาลจะยกฟ้องสำหรับกรณีที่มีคนบอกว่าระบบศาลของไทยมี 2มาตราฐานนั้นผมไม่เชื่อ " ผมเชื่อมั่นระบบศาลของไทย ว่า มีมาตรฐานเดียว " เชื่อในความเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิของท่าน หากเราไม่เชื่อในระบบศาล คิดว่าประเทศไทยอยู่ยาก กรณีคุณหญิงพจมาน คดีเลี่ยงภาษีฯ ยังไม่ยุติ อาจไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ เพราะมีเรื่องของการอุทธรณ์ ฎีกา กลไกของกระบวนการยุติธรรมให้ความยุติธรรมเต็มที่ หมายความว่าต้องผ่านผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายที่ พิจารณาไต่ตรองอย่างรอบคอบส่วนข้อความที่บอกว่า "เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผมจะแถลงความจริงให้ทุกท่านทราบ วันนี้ยังไม่ใช่วันของผม ขอให้ผู้สนับสนุนอดทนอีกนิด หนึ่งครับ" นั้นชัดเจนว่า "พ.ต.ท.ทักษิณ" มีความประสงค์จะกลับมาเมืองไทยแน่นอน เพราะดูจากคำพูดที่เขาบอกว่า "ให้รอ" ก็แสดงว่าจะกลับ มาแน่ อย่างน้อยที่สุดก็แสดงกำลังใจให้กับผู้สนับสนุน เพื่อจะได้มีแรงใจ กำลังใจในการรอคอยการกลับมาของเขาทั้งหลายทั้งปวงในคำแถลงการณ์นี้ผมคิดว่าไม่เป็นผลดีต่อคนไทยด้วยกันเอง ไม่เป็นผลดีคต่อประเทศชาติทั่วโลก สื่งเหล่านี้จะกัดกร่อนตัวเรา ทำให้ประชาชนเป็นเหยื่อของผู้นำ หรือเป็น "เหยื่อของนักการเมืองบางคน " เข้ามามีอำนาจ เข้ามาเสพสุขแล้วก็จากไป แต่ประเทศนี้เป็นของพวกเราคนไทยทุกคน เราควรต้องทำอะไรเพื่อแผ่นดิน เพื่อประเทศชาตินี้กล่าวโดยสรุป "นักการเมือง" มีพัฒนาการของตัวเองอยู่เสมอ บางครั้งมันก็ก้าวหน้า บางครั้งก็เหมือนกลับไปข้างหลัง ประเทศไทยเรานั้นเมื่อดู ตอนนี้มีลักษณะเหมือนทำท่ากับว่าจะถอยไปข้างหลัง เหมือนที่เคยมีรัฐบาลที่มีพรรคเดียว มีเอกภาพ แล้วกลับไปสู่ความไม่ค่อยมีเอกภาพอีก แต่ก็มีหลายส่วนที่สะท้อนให้เห็นว่าการเมืองไทยมีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น มันมีประชาชนจำนวนมากตื่นตัวในเรื่องการเมืองมากยิ่งขึ้น ตื่น ตัวเรื่องการเมืองมากยิ่งขึ้น ตรงนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่เดียว ถ้าเราจะมองเรื่องของ "การพัฒนาการเมือง" ถ้ารัฐบาลเข้มแข็งอย่างเดียว ผลประโยชน์ต่อประเทศชาติคงน้อย เราต้องดูว่าประชาชนตื่นตัว มากไหม โดยเฉพาะภาคประชาชนที่จะมาตรวจสอบการทำงานของนักการเมืองว่าทำงานโดยชอบหรือไม่ ซึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้ว ขบวน การของประชาชนที่มีความเข้มแข็งในการตรวจสอบ ถ้าใครประพฤติมิชอบก็จะตรวจสอบอย่างแข็งขัน การเมืองไทยต่อไปจะดีขึ้น เข้มแข็งขึ้น มีนักการเมืองทำผิดได้น้อยลง ประเทศชาติก็เจริญขึ้นโดยลำดับ


จัดทำโดย นายณัฐชัย ณ ลำปาง ID 5131601061

ท่านคิดยังไรกับการเมืองในปัจจุบันนี้

ป้ายกำกับ