เชียร์ 51

ข่าวเด็ด

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551







วันนี้ (27 ส.ค.) รายการเพื่อนพ้องน้องพี่ พีทีวีภาคพิเศษ ออกอากาศทางโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มวี 5


เนื้อหาในรายการ ผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 ยังคงเน้นกล่าวโจมตีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ตลอดทั้งรายการ โดยอ้างว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างเด่นชัด และเป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 9 คน และเรียกร้องให้แกนนำพันธมิตรฯ มอบตัวเสีย เพราะในเมื่อเป็นแกนนำที่พาคนไปกระทำความผิด ก็ต้องยอมรับโทษแต่โดยดี ถึงแม้จะเห็นใจว่าแกนนำแต่ละคนอายุมากแล้ว หากถูกตัดสินจำคุกไป ก็คงตายกันในคุก แต่ก็ต้องยอมรับให้ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นกรรมที่แกนนำพันธมิตรฯ ก่อขึ้นเอง ผู้ดำเนินรายการ กล่าวต่อไปว่า คนที่มาชุมนุมกันที่สะพานมัฆวาน ซึ่งรวมพลมาจากทั่วประเทศเพียง 20,000-30,000 คนนั้น ถือเป็นเสียงส่วนน้อยมาก เป็นเพียงคนกลุ่มเดียวที่มาเรียกร้องขับไล่รัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย ซึ่งคนส่วนใหญ่ในประเทศเลือกมา ดังนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ จึงไม่มีมีสิทธิ์ที่จะเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ แล้วกระทำการขับไล่รัฐบาลตามอำเภอใจได้


ทั้งนี้ เห็นได้ว่า ประเด็นเรื่องจำนวนคนที่มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น แม้เพียงคาดคะเนด้วยสายตา จากสื่อทีวี หรือหนังสือพิมพ์ทั่วไป ก็ทำให้ทราบได้ว่า มีผู้มาร่วมชุมนุมไม่ต่ำกว่าแสนคน ดังนั้น การกล่าวว่ามีผู้มาชุมนุมเพียง 20,000-30,000 คนนั้น จึงเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน


ผู้ดำเนินรายการยังได้หยิบผลกระทบในด้านต่างๆ มากล่าวอ้าง โดยเน้นประเด็นสำคัญ ว่า ที่พันธมิตรฯ บุกเข้าไปยังสถานที่ราชการต่างๆ เป็นการทำให้ประเทศชาติเสียหาย เพราะความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติก็หมดลงไป ไม่มีใครกล้ามาลงทุน ซ้ำยังสร้างความอับอายไปทั่วโลก เพราะภาพที่สื่อต่างชาตินำเสนอไปนั้น มีแต่ความรุนแรง และละเมิดกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งไม่สมกับเป็นประเทศในระบอบประชาธิปไตยเลย นอกจากนี้ ยังได้อ้างถึงผลสำรวจของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ เรื่อง “ทางออกฝ่าวิกฤตของประเทศไทย ในทัศนะของสาธารณชน” จากกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 2,718 จากคนที่ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด 16 จังหวัดทั่วประเทศ พบว่า ร้อยละ 79.4 ของกลุ่มตัวอย่างกังวลว่าความขัดแย้งทางการเมืองขณะนี้จะทำให้สังคมไทยกลายเป็นสภาพบ้านป่าเมืองเถื่อน ขณะที่ร้อยละ 61.3 กำลังเครียดต่อสถานการณ์การเมือง


ทั้งนี้ ผู้ดำเนินรายการ กล่าวสรุปผลการสำรวจดังกล่าว ว่า ผลดังกล่าวน่าจะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นได้แล้ว ว่า พันธมิตรฯ ควรจะยุติการสร้างความวุ่นวายเสียที เพราะหากยังสร้างความเดือดร้อนให้บ้านเมืองต่อไป ประชาชนก็จะมีแต่ความเครียด จนอาจนำมาซึ่งการฆ่าตัวตายก็เป็นได้


ผู้ดำเนินรายการ ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ระบุว่า การที่พวกตนจัดรายการ “ความจริงวันนี้” ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีนั้น เป็นการเอาสื่อของรัฐที่กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชนมาใช้โจมตีฝ่ายตรงข้าม เป็นการดำเนินการไม่ถูกต้องนั้น พวกตนอยากจะย้อนถามไปยังกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า แล้วการที่กลุ่มพันธมิตรฯ ตั้งกล่องรับบริจาคเงินจากประชาชน มาสนับสนุนสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีนั้น ไม่ได้เป็นการนำเงินของประชาชนมาใช้หรือ ดังนั้น ในประเด็นการใช้สื่อที่มาจากเงินของประชาชนนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ จึงไม่มีสิทธิ์มาว่าพวกตน




ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000101503


โพสต์โดย น.ส. วรรณิศา ธะนาคำ ID:5131601169

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มันก็ต้องใช้เงินทั้งนั้น
ทั้งจากภาษีที่ทุกคนจ่าย
จากอะไรต่ออะไร
ทั้งที่จำนวนเงินที่มากมายขนาดนั้น
จะนำมาบริหารสร้างอะไรที่มันมีประโยชน์ให้กับประเทศ


ท่านคิดยังไรกับการเมืองในปัจจุบันนี้

ป้ายกำกับ