เชียร์ 51

ข่าวเด็ด

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551

อย่าซ้ำเติมสถานการณ์ นะจ๊ะ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

พอดีผู้เขียนไปเห็นบทความๆ นึง จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และก็เห็นว่าดี จึงเอามาฝากท่านผู้ชมหล่ะครับ น่าอ่านจิงๆนะครับลองชมครับ


การที่นายสมัคร สุนทรเวช ต้องพ้นจากตำแหน่งในทันที กลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก ที่หลุดจากตำแหน่งตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ อันเนื่องมาจากการจัดรายการชิมอาหาร “ชิมไปบ่นไป” คอการเมืองอาจมองว่าเข้าลักษณะปลาตายน้ำตื้น แม้แต่ นายสมัครเองก็อาจจะคาดไม่ถึง เพราะเคยถามว่า “แค่ทำกับข้าว” จะต้องถึงกับพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเชียวหรือ?

ทันทีที่สิ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โฆษกพรรคพลังประชาชนประกาศว่า จะเลือกนายสมัครกลับมาเป็นนายกฯอีก โดยอ้างว่าไม่ได้กระทำผิดร้ายแรง ไม่ใช่การทุจริต เป็นบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้อง และยอมรับไม่ได้ แต่จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถือว่าการกระทำอันต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 เข้าลักษณะผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งนักวิชาการถือว่าเป็นการทุจริตรูปแบบหนึ่ง

เรื่องนี้จึงไม่ใช่ “แค่ทำกับข้าว” เพราะเป็นการกระทำการอันต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญ ในส่วนที่ว่าด้วย “การกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์” ศาลรัฐธรรมนูญอธิบายว่าเป็นบทบัญญัติที่ป้องกันรัฐมนตรีไม่ให้กระทำ อันจะก่อให้เกิดสถานการณ์ขาดจริยธรรม มีการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ ในลักษณะที่ประโยชน์ส่วนตัวจะได้มาจากการเสียไปซึ่งประโยชน์สาธารณะ

ในรัฐธรรมนูญส่วนนี้ นอกจากมาตรา 267 แล้ว ยังมีอีกหลายมาตรา มีมาตราหนึ่ง ซึ่งเป็นข่าวบ่อยครั้ง ได้แก่มาตรา 269 ห้ามรัฐมนตรีถือหุ้นในบริษัทเกิน 5% เคยทำให้ รัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่งไปแล้วหลายคน เจตนารมณ์ที่สำคัญ คือป้องกันไม่ให้รัฐมนตรีใช้อำนาจหน้าที่ เอื้อประโยชน์ให้แก่ธุรกิจของครอบครัว แต่บางคนก็เลี่ยงกฎหมายด้วยการโอนหุ้นให้บุตร หรือคนใช้

ใครก็ตาม ไม่ควรโทษรัฐธรรมนูญ 2550 เป็นอันขาด โทษว่าเป็นกับดักที่มุ่งเล่นงานนักการเมืองบางพรรค เป็นการเฉพาะเจาะจง เพราะความจริงบทบัญญัติที่ห้ามรัฐมนตรีมีตำแหน่งในบริษัทเอกชน หรือเป็นลูกจ้างเอกชน มีอยู่แล้วในรัฐธรรมนูญ 2540 เพียงแต่ว่านักการเมืองไม่ได้ใส่ใจ เพราะในอดีตไม่มีใคร เอาเรื่องเอาราว เนื่องจากองค์กรตรวจสอบถูกแทรกแซงจนเป็นอัมพาต

จะกลายเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างยิ่ง ถ้าพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ เลือกนายสมัครกลับไปเป็นนายกฯอีก เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้ทำคุณูปการแก่ บ้านเมือง ด้วยการแปรวิกฤติให้เป็นโอกาส ให้นายสมัครพ้นจากนายกรัฐมนตรี โดยไม่เสีย หน้ามากเหมือนการลาออก และเปิดโอกาสให้แก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองโดยสันติ จึงไม่ควรปิดประตูรับโอกาส

พรรคการเมืองจึงควรใช้โอกาสนี้ ร่วมกันแสวงหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย อย่าได้คิดตอบโต้ศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยการเลือกคนเดิมกลับไปอีก เพราะจะซ้ำเติมวิกฤตการณ์ให้ทรุดหนัก จนยากที่จะแก้ไขได้โดยสันติ ถ้ายังมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองโปรดฟังคำเตือนของสภาอุตสาห-กรรมฯ ที่ว่า ถ้าปล่อยให้วิกฤติยืดเยื้อ เศรษฐกิจจะเสียหายไม่ต่ำกว่า 6 แสนล้านบาท.

ร่วมคิด

อย่างที่ผู้เขียนได้เขียนมานั้นจะเห็นได้ว่า อดีตนายกสมัครไม่ควรมานั่นเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีก เนื่องจากมีความผิด จริง แล้ว พรรคการเมืองจึงควรใช้โอกาสนี้ ร่วมกันแสวงหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการสร้างความสามัคคีในชาติได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากก็ตาม

ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics01&content=103804


สร้างสรรค์โดย

Mr.Nuttachai Nalampang ID 5131601061
Mr.Nattapon Pintasan ID 5131601065

School of Law

Section 1


15 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไม่ต้องซ้าเติมก็ช้ำใจเจียนแย่แล้วครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ก็สมัคร ทำธุรกิจนี่ครับเลยขัดผลประโยชน์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 แน่นอนครับก็ต้องออก

"จะกลายเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างยิ่ง ถ้าพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ เลือกนายสมัครกลับไปเป็นนายกฯอีก " เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ

จะได้คนใหม่ดีๆสักที

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เห็นด้วยครับ พรรคการเมืองแสวงหานายกคนใหม่แต่ถ้าไม่ดีก็เหมือนเดินเน้อพี่น้อง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เห็นด้วยอีกคนค่ะ แบบว่าการหานายกดีๆคนใหม่ใครจะเป็นได้คะ ถึงดีแต่ทำให้เกิดความไม่พอใจก็ไม่สามารถทำให้ดีขึ้นได้ ควรจะไปหาทางออกแบบอื่นนะคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ต้องรออีกนานเท่าไร ?

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไม่ซ้ำเติมหรอกครับ ประเทศชาติ เจ็บมามากแล้ว ใครรักชาติก็จะรู้ ใครที่ไม่รักชาติก็ ... เราคนไทยครับ คนดีๆออกมาช่วยกันคิดแก้ไขร่วมแจงปัญหากันครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ถึงเเม้ว่าจะนายกจะม่ายยอมลาออก
เพราะคิดว่าตน ไม่ผิด
เเต่เมื่อหักฐานมีครบเเล้ว
ก็คงปฎิเสธไม่ได้
ควรจะยอมรับ
ความจริงได้เเล้ว

เพราะท่านนายก ผิดจริง
มองเห็นประโยชน์ส่วนตัว
มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม

ถึงท่านอยุ่ ก้ม่ายช่ายหั้ยอารัยดีขึ้นมา



นส. จันทนีย์ กิตติศักดิ์เสรี
5131601263
sec 02 major : law

LuMdUaN กล่าวว่า...

เห็นด้วยอย่างที่ผู้เขียนได้เขียนมา

อดีตนายกสมัครไม่ควรมานั่นเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีก เนื่องจากมีความผิดจริง แล้วพรรคการเมืองจึงควรใช้โอกาสนี้ ร่วมกันแสวงหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ เื่พื่อนำพาประเทศชาติให้ก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้แล้ว หลังจากประสบปัญหามามากมาย อีกทั้งคนในชาติควรจะร่วมใจกันเลือกผู้นำที่ดี มีคุณภาพมาบริหารประเทศทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์สุขของทุกคนนั้นเอง เพราะประเทศไทยคือประเทศประชาธิปไตย อนาคตของชาติอยู่ในมือประชาชนคนไทยทุกคน

น.ส.พิมลกร แปงฟู
ID:5131601432
สำนกวิชานิติศาสตร์
section : 2

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สมัครประกาศเลิกยุ่งการเมืองแล้วครับพี่น้องงงงงง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จริงหรอ ข่าวมั่วป่าวอ่ะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไปเอาข่าวมาจากไหนอ่ะครับ น่าสนใจดี

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จริงๆครับพี่น้อง สมัครไม่เล่นการเมืองแล้ว ยังเล่นกับหลานที่บ้านอยู่เลยครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นายกแต่ละคนดีแต่สร้างปัญหาให้กับเมืองไทย
แล้วเมื่อไหร่บ้านเมืองจะเป็นสุจสักทีคะ


ถ้าได้นายกคนใหม่มา
แล้วคิดจะหาผลประโยชน์เพื่อตนเอง
ไม่ต้องมีดีกว่ามั้งคะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เค้าจะยุบสภาเลยดีไหม ถ้ายุบแล้วบ้านเมืองเลือกตั้งใหม่ดีขึ้น แก้ปัญหาได้เลยนะครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อาจจะยุบแน่ แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ เมื่อไรที่ถูกกดดันจนหาทางออกไม่ได้ จะพึ่งพาอาศัยทหาร เขาก็ไม่เล่นด้วยอีกเพราะเคยไปด่าเขาไว้เยอะ แม้กระทั่ง
สส.ในพรรคก็ยังแตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า อีก ตอนนี้ก็คงจะล่องลอยต่อไป

Sevenstar


ท่านคิดยังไรกับการเมืองในปัจจุบันนี้

ป้ายกำกับ