เชียร์ 51

ข่าวเด็ด

วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2551

ต้องให้คนไม่พอใจเท่าไหร่ถึงจะฟัง!





การเลือกใช้วิธีการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯของนายกฯนั้นไม่ได้ผล และไม่เคยได้ผลมาทั่วโลก เมื่อเกิดวิกฤติของบ้านเมืองนั้นๆ ขณะนี้รัฐบาลกำลังใช้กองทัพเป็นเครื่องมือที่จะรักษาสถานภาพของตนเองต่อไป ซึ่งมองว่าจะ "ล่อแหลมต่อบ้านเมืองมาก" หากกองทัพใช้อำนาจตามกฎหมายที่ พ.ร.ก.นี้ระบุไว้ เข้าสลายการชุมนุม จะเกิดความรุนแรงถึงขั้นกลียุคและถ้ากองทัพไม่ทำ ผู้นำกองทัพก็จะกลายเป็นผู้นำที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย


ดังนั้นการใช้วิธีทางกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลก็รู้ดีว่ากฎหมายให้ความคุ้มครองทั้งผู้ร้อง คือ โจทก์ และผู้ถูกร้องคือจำเลย และจะแก้ปัญหาได้อย่างไร ถ้าเลือกทางสลายม็อบ ความเสียหายจะเกินกว่าที่คาดคิด ทำเพียงเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองเพียงไม่กี่คน
ขณะนี้ไม่มีทางเลือกอื่น ในทางการเมืองภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ ทางแก้วิกฤติการเมืองด้วยวิถีทางกการเมืองมีอยู่ 2 ทางคือ นายกฯต้อง "ยุบสภา" หรือ "ลาออก " ส่วนแนวคิดรัฐบาลแห่งชาตินั้น ถ้าเป็นไปในแนวทางกรอบของรัฐธรรมนูญจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากคิดว่าจะยกเว้นการบังคับใช้รัฐธรรมนูญบางมาตราก็ต้องมีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญต้องมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองด้วยรัฐาธิปัตย์
ประเทศไทยวันนี้เหมือนถูกจับเป็นตัวประกันระหว่างรัฐบาล กับ พันธมิตรฯ ซึ่งจะนำความสูญเสียให้กับประเทศและระบอบประชาธิปไตย ขณะที่นายกฯไทยเลือกการแก้วิกฤติด้วยวิธีทางกฎหมาย หากหันไปมองประเทศญี่ปุ่น ที่รัฐบาลเพียงมีนโยบายไม่ถูกใจประชาชนเขาไม่ต้องถามประชาชน แต่นายกฯตัดสินใจแถลงลาออกทันที แล้วจะต้องถามนายกฯไทยว่าจะให้คนไม่พอใจมากเท่าไหร่ ถึงจะรับฟัง
ยิ่งมี มติ กกต.ที่ให้ยุบพรรค พลังประชาชนเป็นเอกฉันท์ จะยิ่งทำให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลขาดความชอบธรรมมากขึ้น เพราะพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลไม่มีความชอบธรรมตามกฎหมาย จึงเป็นเหตุเป็นผลที่จะถูกมองว่าไม่มีความชอบธรรมในการบริหารประเทศต่อไปแล้ว
ทั้งนี้ "สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)" ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ปัญหาการเมืองดับชนวนด้วยกฎหมายไม่ได้ เตือนกองทัพ อย่าเป็นเครื่องมือค้ำบัลลังก์รัฐบาล โดยทีรายละเอียดว่าจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่ม นปช.กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และเป็นเหตุให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมอบหมายให้ ผบ.ทบ.เป็นหัวหน้าผู้รับชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ทางสถาบันขอแสดงความเสียใจและความสูญเสียที่เกิดขึ้นทางสถาบันขอเสนอแนะ 3 ประการ คือ 1. ขอให้ทุกฝ่าย "ยึดมั่นในแนวทางสันติวิธี "อย่างเคร่งครัด ไม่ยั่วยุ ก่อกวนที่จะนำไปสู่การปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุม หรือ ก่อให้เกิดความรุนแรงในประเทศมากยิ่งขึ้น 2. วิกฤติการณ์ครั้งนี้เป็น "วิกฤติการทางการเมือง" การใช้มาตรการทางกฎหมายไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และอาจเป็นการสร้างเงื่อนไข ที่จะนำไปสู่ความรุนแรงยิ่งขึ้น จนยากที่จะควบคุมได้ อันจะสร้างความเสียหายแก่ประเทศอย่างใหญ่หลวงและ 3.การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลปัดภาระความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และใช้ทหารเป็นเครื่องมือ ทางสถาบันขอให้ ผบ.ทบ.พิจารณาไตร่ตรองตัดสินใจ และกระทำการใดๆ อย่างรอบคอบ โดยหลีกเลี่ยง การตกเป็นเครื่องมือ ของฝ่ายการเมือง ซึ่งอาจนำความเสียหายมาสู่กองทัพแห่งชาติได้ สถาบันจะติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และจะแถลงให้สาธารณะให้ทราบถึงจุดยืนของสถาบันเป็นระยะต่อไป
ความคิดของคนเราต่างกันนะครับ มาแลกแปลี่ยนความคิดกันนะครับ
Mr.Nuttachai Nalampang ID 5131601061

5 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ลาออกเถอะค่ะ ปัญหาจะได้ยุติลงด้วยความสงบเรียบร้อย

หากอยู่ต่อไป เกิดความรุนแรงแน่ค่ะ


มิมีผู้ที่อยู่ค้ำฟ้า เพราะเหนือฟ้า ยังมีฟ้า

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ทหารอย่าตกเป็นเครื่องมือก็แล้วกัน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นี่แหละกลียุคของจริงในสายตาของต่างชาติ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช - ถึงแม้ว่าจะมาถูกต้องตามกระบวนการประชาธิปไตย คือ มาจากการเลือกตั้ง ก็จริงแต่รัฐบาลนายสมัครจะต้องดูแลประชาชนทุกคน ทุกกลุ่มโดยไม่มีข้อยกเว้นมากลุ่มนี้สนับสนุนรัฐบาลหรือกลุ่มนี้ไม่สนับสนุนรัฐบาล และจะต้องหาวิธียุติปัญหาความขัดแย้งให้เร็วที่สุด โดยไม่ใช้ความรุนแรง
รัฐบาลจะต้องใช้สติและใช้ความพยายามอย่างมาก ต้องใช้ทุกช่องทาง เพื่อยุติปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงและบานปลายจนกลายเป็นเหตุการณ์นองเลือดเกิดขึ้นได้ ถึงแม้ว่าจะต้องยอมเสียสละก็ตาม และตระหนักอยู่เสมอว่า ไม่ว่ากลุ่มไหน ก็คือ คนไทยด้วยกัน
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย - ต้องระมัดระวังในการเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวใดๆที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชาติบ้านเมือง ต้องไม่ทำ ควรหลีกเลี่ยงการปะทะกัน การยั่วยุ การเผชิญหน้า และที่สำคัญ กลุ่มพันธมิตรจะต้องมีส่วนรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่าง ไม่ว่าผลจะออกมาเช่นไร ต้องรับผิดชอบร่วมกับรัฐบาล และอีกประการหนึ่ง กลุ่มพันธมิตรฯไม่ควรกำหนดเงื่อนไขที่ตายตัว เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ผลกระทบของประเทศชาติในท้ายที่สุด กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะต้องรับผิดชอบร่วมกับรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ASTV ดูแล้วช่วยพันธมิตร NBT แนวช่วยรัฐ

เหอะๆ อาจจะผิดทั้ง 2 เลยก็ว่าได้นะ เพราะ ต่างฝ่ายต่างทำผิด 555 คิดเอาเอง


ท่านคิดยังไรกับการเมืองในปัจจุบันนี้

ป้ายกำกับ