เชียร์ 51
ข่าวเด็ด
วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551
สนธิ"ย้อนอัปยศการเมืองเก่านัดแฉปปช.ดองคดี"แม้ว"วันนี้
เมื่อเวลาประมาณ 21.50 น. วันที่ 23 ก.ย. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ตนไม่พูดเรื่องการเมืองใหม่มากนัก สาเหตุเป็นเพราะต้องการให้ทุกคนได้ไปคิดกันเอาเอง แต่ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าสาเหตุที่ต้องมาชุมนุมเพราะไม่เอาการเมืองเก่า
นายสนธิ ยังเกล่าย้อนอดีตสมัยเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ประชาธิปไตยได้เห็นการเมือง มามากหลายยุคสมัย มีนักหนังสือพิมพ์หลายคนพัฒนากาวหน้ามาไกล แต่บางคนก็ตรงกันข้าม พร้อมทั้งยกตัวอย่างหนังสือพิมพ์มติชน ที่คนคิดว่าเป็นหัวก้าวหน้า แต่ไม่ใช่ วันนี้เห็นภาพที่ นายขันธ์ชัย บุนปาน ผู้บริหารมติชนนำกระเช้าดอกไม้ไปแสดงความยินดีกับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อย่างไรก็ดีจะได้เห็นกันชัดขึ้น เพราะเป็นอีแอบมานานแล้ว
นอกจากนี้ นาสนธิ ยังย้อนอดีตให้เห็นถึงสมัยที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นไม้เบื่อไม่เมากับหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เนื่องจาก ร.ต.อ.เฉลิม ได้รับคำสั่งจากอดีตนายกฯให้ไปปิดผับเดอะพาเลซเนื่องจากไม่พอใจที่แฉเรื่อง คู่ขาของตัวเอง สมัยที่เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯและตั้งหน่วยเฉพาะกิจขึ้นมาปราบปราม อบายมุขบังหน้า
นายสนธิ ยังกล่าวอีกว่า ในสมัยก่อนเคยถูกทาบทามให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เพียงแค่ให้ช่วยบริจาคเงินเข้าพรรคการเมืองเพียง 50 ล้านบาท แต่ได้ปฏิเสธไป โดยขอเป็นรัฐมนโทข้างนอกดีกว่า
นายสนธิ ยังได้ย้อนอดีตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัยที่หิ้วก๋วยเตี๋ยวไปตามตื้อ ร.ต.อ.เฉลิม สมัยที่เป็นรัฐมตรีประจำสำนักนายกฯเพื่อขอสัมปทานเคเบิ้ลทีวีกับอสมท.แต่ต่อ มาเมื่อ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นสั่งให้ ร.ต.อ.เฉลิม อนุมัติเคเบิ้ลทีวีให้กับกลุ่มกาญจนพาสในนามของไทยสกายทีวีทำให้ความ สัมพันธ์ของทั้งคู่บาดหมางกันช่วงหนึ่ง
นายสนธิ กล่าวว่า ยุคการเมืองน้ำเน่าอย่างแท้จริงได้เริ่มขึ้นในยุคโทรคมนาคม ในยุคที่ นายมนตรี พงษ์พานชิ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคนๆนี้เป็นต้นแบบทุกอย่างทางการเมืองของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในปัจจุบัน และยุคนี้เป็นยุคที่ถูกเรียกว่าเป็นยุคบุพเฟร์คาบิเนต
นายสนธิ กล่าวอีกว่า เป็นยุคที่มีการนำสัมปทานของชาติมาแบ่งขายกันเองในหมู่นักธุรกิจกับนักการ เมือง ซึ่งยุคนี้มี พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างสำคัญในเรื่องของการวิ่งเต้นขอสัมปทานโทรศัพท์มือถือ และว่าทุกอย่างต้องแลกกันด้วยผลประโยชน์ ทั้งที่ทางที่ถูกต้องมีการเปิดประมูลให้บ้านเมืองได้ประโยชน์สูงสุด
"สิ่งเหล่านี้คือการเมืองเก่า ที่ไม่มีการตรวจสอบ อย่างข้าราชการบางคนถ้าอยากได้เป็นอธิบดี ก็จะมีพ่อค้าลงขันกันซื้อเก้าอี้ให้ เมื่อข้าราชการคนนั้ยได้เป็นอธิบดี ก็จะตอบแทนโครงการให้กับพ่อค้าเหล่านั้น ซึ่งเป็นแบบนี้มานานจนเน่าเฟะมาเรื่อย จะหาข้ราชการที่ทำเพื่อชาติบ้านเมืองสมเป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวยากมาก และเป็นการเมืองที่อัปยศที่สุด" นายสนธิ ระบุ
อย่างไรก็ดีแกนนำพันธมิตรฯผู้นี้กล่าวอีกว่าการทุจริตแบบนี้จะไม่ เกิดขึ้นในสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยยกตัวอย่างอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมคนหนึ่งที่พยายามทุจริตใน โครงการไทยเดินเรือทะลมูลค่าในสมัยนั้นประมาณถึง 2 พันล้านบาท แต่ พล.อ.เปรมรู้และขัดขวาง และต่อมาเมื่อปรับคณะรัฐมนตรีรัฐมนตรีคนนั้นจึงหลุดจากตำแหน่ง และนี่คือสาเหตุที่อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมคนนั้นที่บัดนี้ กำลังชะตาขาดโกรธ พล.อ.เปรมจนถึงบัดนี้ ซึ่งมันคิดว่าไม่มีใครรู้เบื้องหน้าเบื้องหลังเรื่องพวกนี้
ขณะเดียวกันนายสนธิ กล่าวเปรียบเทียบว่า การเมืองใหม่คือการล้างความชั่วในทุกวงการให้โปร่งใส ใครจะทำอะไรก็มองเห็นหมด และยังตีกรอบให้ข้าราชการต้องซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินให้สมกับเป็นข้าราชการของ พระเจ้าอยู่หัว เพราะถ้าปล่อยให้การเมืองเก่าเป็นอย่างนี้ต่อไปบ้านเมืองก็จะสูญสิ้น เวลานี้มีตุลาการบางคน ตำรวจบางคน และอัยการบางคนไม่ซื่อสัตย์ ถ้าเราพึ่งคนพวกนี้ไม่ได้แล้วจะไปพึ่งใคร
อย่างไรก็ตามในตอนท้าย นายสนธิ ยังได้เปิดโปง ปปช.คนหนึ่งที่สนิทชิดเชื้อกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดองทุกคดีทุจริตในสนามบินสุวรรณภูมิที่ส่งไปจาก คตส.ซึ่งปปช.คนนี้รับผิดชอบ แต่ดองเอาไว้ทุกคดี ซึ่งพรุ่งนี้จะแฉว่าเป็นใคร รวมทั้งเบื้องหลังของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ที่ถูกดำเนินคดีซีทีเอ็กซ์ด้วย
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000113033
โพสโดย กฤตย์ อิสสระพันธุ์ รหัส 5131601231
วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551
พผ.ยังวุ่น ส.ส.ป่วน โผ ครม.ไม่ลงตัว “สุวิทย์” ถอนตัว
วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551
โพลชี้ 'โอบามา' พลิกนำ 'แมคเคน' อีก
โสมแดงปัดข่าวลือ “คิม” ป่วยหนัก-เผยเตรียมเปิด รง.นิวเคลียร์อีก
วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551
“สมชาย”เล็งยกหูคุยฮุนเซน แก้ข้อพิพาทไทย-เขมร
ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจแรกวันนี้ (18 ก.ย.) ของนาย
นาย สมชาย กล่าวภายหลังหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ โดยยืนยันว่าจะใช้แนวทางการหารือทวิภาคีแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาต่อไปตาม แนวทางของคณะกรรมการปักปันเขตแดน หรือเจบีซี ซึ่งอาจจะโทรศัพท์หารือกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาโดยตรง ส่วนผู้จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องเป็นบุคคลที่มีความสามารถด้านการต่างประเทศ เพราะจะต้องเข้าร่วมประชุมใหญ่ประจำปี สมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 63 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 29 กันยายนนี้ จะหารือระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนด้วย และจะใช้โอกาสนี้ หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาเพื่อแก้ปัญหาด้วย ขณะที่ระบุว่าตนเองจะไม่เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติ
ด้าน ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ได้ยืนยันกับไทยว่า ขณะนี้ปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่มีความจำเป็นต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมยูเอ็นเอสซีหรือศาลโลก
ล่า สุด หลังเสร็จภารกิจที่กระทรวงการต่างประเทศ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ได้เดินทางไปที่กระทรวงการคลัง เพื่อหารือผลกระทบจากวิกฤติสถาบันการเงินสหรัฐฯ มี นพ.สุรพงษ์ ผู้บริหารของกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้การต้อนรับ โดยก่อนขึ้นไปร่วมประชุมนายสมชาย ได้ไปสักการะช้างคู่เอราวัณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงการคลังด้วย
ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/
โดยนางสาวเกษศิณี กรกนก 5131601012
นายชาญภิวัฒน์ คำมะโนชาติ 5131601042
นางสาวงวรรณิศา ธะนะคำ 5131601169
นางสาวกนกวรรณ คงไพศาล 5131601219
Somchai Wongsawat Prime Minister of Thailand
In 1970, Somchai graduated from Thammasat University with a Bachelor of Laws. He became a Barrister-At-Law in 1973, and earned a Master of Public Administration from Thailand's National Institute of Development Administration in 2002. In 1974 he was appointed an assistant judge, and he became a judge in 1975. Somchai was appointed to the position of Chief Justice of Pang-nga Court in 1986. He became a member of the Region II Court of Appeal in 1993, and chief justice of that court in 1997. In 1998, he was appointed to the Cabinet as Deputy Permanent Secretary of the Ministry of Justice; he became Permanent Secretary in November 1999, and served until March 2006. Somchai was then appointed to Permanent Secretary of the Ministry of Labor, and held that post until September 2006. He became a member of the Thai House of Representatives in 2007.
On September 15, 2008, the People Power Party named Somchai Wongsawat as its intended candidate for prime minister. However, this decision was quickly questioned by both the People's Alliance for Democracy (PAD) and factions within the PPP.Somchai was ratified by the National Assembly of Thailand as Prime Minister of Thailand on the 17th September, winning 298 votes against 163 votes for Abhisit Vejjajiva. The Supreme Court was also expected to rule that day in a corruption case against Thaksin and his wife, to be promulgated after the parliament votes for the new prime minister. Somchai won more than 60% parliament vote, and he will assume office upon endorsement by Thai King Bhumibol Adulyadej, which is expected to occur within a few days
Somchai's wife, Yaowapa Wongsawasdi, previously served as an MP in the Thai Rak Thai party, which was led by her older brother, Thaksin Shinawatra. Somchai has held positions on the boards of several state-owned corporations, including Airports of Thailand, the national petroleum company PTT and Krung Thai Bank.
ที่มา : http://en.wikipedia.org/wiki/Somchai_Wongsawat
โพสต์โดย นางสาวชลินันท์ จันทะนาม ID : 5131601037 ตอนเรียน 1
ประชุมผู้นำอเมริกาใต้เน้นการทูตแก้วิกฤติโบลิเวีย
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติให้ประธานาธิบดี อีโว โมราเลส แห่งโบลิเวีย เจรจาทางการทูตเพื่อแก้ไขความขัดแย้งภายในประเทศ และเรียกร้องให้ประธานาธิบดี ฮูโก ชาเวซ แห่งเวเนซุเอลา ยุติการแทรกแซงกองทัพโบลิเวีย หลังนายชาเวซโจมตีนายทหารระดับสูงของโบลิเวียว่าไม่ให้การสนับสนุนรัฐบาลเมื่อ 11 ก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์การเมืองอเมริกาใต้ระบุว่าการประชุมครั้งนี้คือการรวมตัวของ “สหภาพกลุ่มประเทศอเมริกาใต้” (Unasur) ซึ่งต้องการแยกตัวจาก “องค์กรประเทศแถบทวีปอเมริกา” (โอเอเอส) ที่สหรัฐฯหนุนหลังอยู่ แต่ผู้นำประเทศอเมริกาใต้หลายคนมิได้เห็นด้วยกับการประกาศจุดยืนต่อต้านสหรัฐฯของผู้นำเวเนซุเอลาและผู้นำโบลิเวีย หลังทั้ง 2 คนไล่ตัวแทนทางการทูตสหรัฐฯประจำประเทศตนออกจากตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยอ้างว่าตัวแทนการทูตของสหรัฐฯ มีส่วนยุยงให้ประชาชนในโบลิเวียรวมตัวต่อต้านรัฐบาล
ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯส่งตัวทูตเวเนซุเอลาและโบลิเวียกลับประเทศเช่นกัน โดยอ้างว่าตัวแทนการทูตของทั้ง 2 ประเทศ ให้ความช่วยเหลือกลุ่มกบฏในโคลอมเบีย (ฟาร์ก) ลักลอบขนยาเสพติดเข้าสหรัฐฯ ซึ่งทำเป็นขบวนการใหญ่ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังระบุด้วยว่าหากเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในโบลิเวียจะส่งผลกระทบเสียหายไปทั้งกลุ่มประเทศแอนเดียน อันได้แก่ โบลิเวีย โคลอมเบีย เปรู เอกวาดอร์ เวเนซุเอลา รวมถึงบราซิลซึ่งต้องนำเข้าพลังงานจากโบลิเวียเป็นหลัก
ส่วนนายมาริโอ คอสซิโอ ผู้ว่าการแคว้นทาริฮา ประกาศเมื่อ 15 ก.ย. ว่าผู้ชุมนุมพร้อมเจรจาต่อรองกับรัฐบาลโบลิเวีย โดยเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึกในแคว้นทาริฮาและแพนโด ขณะที่ประธานาธิบดีโมราเลสต้องให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการปกครองจากการกระจายอำนาจไปสู่การรวมศูนย์อำนาจโดยรัฐบาลกลาง รวมถึงยกเลิกการแก้ไขกฎหมายการถือครองที่ดินเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ชาวพื้นเมืองโบลิเวียซึ่งมีมากกว่า 60% ของประชากรทั่วประเทศ และเป็นข้อเสนอที่นายโมราเลสพยายามผลักดันเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว แต่ประชาชนทางภาคเหนือของประเทศคัดค้าน ซึ่งถ้าหากรัฐบาลยอมรับข้อตกลงผู้ชุมนุมยินยอมยุติการยึดถนนทั้ง 35 สาย และเปิดเส้นทางการจราจร.
ออกหมายจับ ทักษิณ คดีเงินกู้ [17 ก.ย. 51]
ที่สำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ถนนรัชดาภิเษก นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ได้ นัด สั่งคำสั่งคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยนางเพ็ญโสม ดามาพงศ์ กรรมการบริษัท นางบุษบา ดามาพงศ์ อดีตกรรมการบริษัทฯ, พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นผู้ต้องหาที่ 1-4 โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการสั่งคดีออกไป โดยอ้างว่าจะติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน มาฟังการสั่งคดีในนัดหน้า หากทั้งสองไม่มาตามนัดยินดีให้ปรับนายประกัน ด้านนายเศกสรรค์กล่าวว่า พนักงานอัยการยังต้องพิจารณาสำนวนอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังได้รับเอกสารหลักฐานการถือครองหุ้นบางส่วนจากต่างประเทศ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ติดตามมา จึงเห็นสมควรให้เลื่อนการสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 29 ต.ค. เวลา 10.00 น. หาก พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานไม่มาฟังคำสั่ง จะปรับนายประกันคนละ 1 ล้านบาท และออกหมายจับต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 17 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 และขอให้ยึดทรัพย์จำนวน 772 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ใช้ในการประมูลซื้อที่ดิน โดยเป็นที่แน่ชัดว่าจำเลยทั้งสองจะไม่มาฟังคำพิพากษา ทางองค์ผู้พิพากษาจะพิจารณาออกหมายจับจำเลยมาศาลภายใน 30 วัน หากยังไม่ได้ตัวจำเลยมา ศาลจะอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย ตามขั้นตอนของกฎหมาย
วันเดียวกัน นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกรรมการบริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และนายชัยวัฒน์ พสกภักดี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ตกเป็นจำเลยในคดีหวยบนดิน เดินทางมายื่นคำร้องและหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัว โดยใช้เงินสดและบัญชีเงินฝากประกันตัวออกไป โดยศาลตีราคาประกันคนละห้าแสนบาท
สมชาย ฉลุย! นั่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 26
ขณะที่ม็อบหนุนพรรคพลังประชาชนต่างเฮแสดงความดีใจ ทางด้านกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อรู้ข่าวต่างก็แสดงอาการยี้ กับการได้เป็นนายกรัฐมนตรีของ "นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์"
วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551
AIG ดิ้นหนีล้มละลาย ธ.กลางทั่วโลกเร่งอัดฉีดเงินค้ำระบบการเงิน
มหาเธร์เตรียมร่วมพรรคอัมโนอีกครั้ง หลังลาออกเพื่อบีบอับดุลเลาะห์
เอเจนซี – ลูกชายอดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดเผย พ่อของเขาจะเข้าร่วมพรรคอัมโน แกนนำรัฐบาลมาเลเซียอีกครั้ง หลังจากประกาศลาออกไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อกดดันให้นายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวีลงจากตำแหน่ง มหาเธร์ นักการเมืองฝีปากกล้า ที่มักวิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์เสมอ จะเข้าร่วมพรรคอัมโนอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งมีพรรคอัมโนเป็นแกนนำ ถูกกดดันอย่างหนักจากอดีตรองนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบรอฮิม ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน มุครีซ มหาเธร์กล่าวในการแถลงข่าว ซึ่งสำนักข่าวเบอร์นามารายงานว่า มหาเธร์ตัดสินใจกลับมาร่วมพรรคอัมโนอีกครั้งด้วยตัวเอง และความต้องการของพระเจ้า โดยเขาจะยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกก่อนเทศกาลเอดิลฟิทรี งานฉลองหลังเดือนรอมฎอน ทั้งนี้ มหาเธร์ได้แถลงการลาออกเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยยังชักชวนสมาชิกพรรคอัมโนคนอื่นๆ เดินตามรอยเขา เพื่อกดดันให้นายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี ต้องลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังนำพรรคพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ อันวาร์ประกาศในวันอังคาร (16) ที่ผ่านมาว่าได้ระดมเสียงสนับสนุนของส.ส.ในรัฐสภาเป็นจำนวนมากเพียงพอ ที่จะขับไล่รัฐบาลแล้ว และเสนอเจรจากับนายกรัฐมนตรีเรื่องการส่งมอบอำนาจ นอกจากนี้ เขายังได้ขอพระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย ซึ่งทรงมีพระราชอำนาจในการปลดตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเสนอให้มีการเลือกตั้งรัฐสภา เพื่อแต่งตั้งผู้นำคนใหม่ ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้านของอันวาร์ทั้ง 3 พรรคครองเก้าอี้ในสภา 82 ที่นั่ง ขาดอีกเพียง 30 ที่นั่ง เพื่อที่จะได้ครองเสียงข้างมากในสภา ที่มีทั้งหมด 222 ที่นั่ง
ที่มาข่าวhttp://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000110171
วิเคราะห์ข่าว
ถ้าการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลมาเลเซียเกิดขึ้นจริงก็คงเหมือนกรณีในประเทศไทยที่ต้องมีผู้นำใหม่มาแทนที่ซึ่งในกรณีของมาเลเซียคงจะเป็นนายอันวาห์เป็นแน่ ปัญหาที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่นักการเมืองซึ่งบทสรุปที่ออกมาจะเป็นเช่นไรคงต้องติดตามกันต่อไป
วิเคราะห์ข่าวโดย นายรวมเลิศ สุภานันท์ 5131601165 ตอนเรียน 1
คดีบึม จ.สงขลาคืบหน้า ผบ.ตร.เผยจับแล้ว 6ผู้ต้องหา
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าววันนี้ (16 ก.ย.) ที่ห้องประชุม สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ถึงความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิด 7 จุด ใน อ.เมือง และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า คดีมีความคืบหน้ามาก โดยเจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานจนออกหมายจับผู้ก่อเหตุแล้ว 11 ราย จับกุมได้แล้ว 6 ราย คือ นายอับดุลเล๊าะ หมะหลี อายุ 29 ปี นายมูฮัมหมัดนูร มูสอ อายุ 25 ปี นายอิสเฮาะ สาแมบากอ อายุ 25 ปี นายฮารีล สะมะแอ อายุ 25 ปี นายมูฮัมมัด สิดดิก มอลอ อายุ 25 ปี และนายมัคสุด เสะและ อายุ 31 ปี เบื้องต้นแจ้งข้อหาทั้งหมดร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่โรงเรือนและมีผู้ได้ รับบาดเจ็บ ร่วมกันทำ มี ใช้วัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ และร่วมกันขนย้ายวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนอีก 5 ราย อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับและกำลังจะออกหมายจับเพิ่มอีกราย
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้งหมดพบว่า เคยก่อเหตุระเบิดในพื้นที่สงขลามาแล้ว 3 ครั้ง คือ ที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2548 ที่ศูนย์การค้าใน อ.หาดใหญ่ 6 จุด เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2549 และย่านการค้าสถานบันเทิงในเมืองหาดใหญ่ 7 จุด เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2550 ซึ่งการออกหมายจับนั้นรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดและชัดเจน
ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/
โดย
นางสาวเกษศิณี กรกรก 5131601012
นายชาญภิวัฒน์ คำมะโนชาติ 5131601042
นางสาววรรณิศา ธะนะคำ 5131601169
นางสาวกนกวรรณ คงไพศาล 5131601219
แกนนำ6พรรคร่วมกินข้าว ก่อนแถลงจัดตั้งรัฐบาลใหม่
ผู้ สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (16 ก.ย.) ว่า ที่โรงแรม เจดับบิวมาริออท กรุงเทพฯ สถานที่กำหนดการแถลงข่าวร่วมจัดตั้งรัฐบาลแกนนำของทั้ง 6 พรรคการเมือง คือ พลังประชาชน ชาติไทย เพื่อแผ่นดิน รวมใจไทยชาติพัฒนา มัชฌิมาธิปไตยและประชาราช เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยฯ และนางอุไรวรรณ เทียนทอง แกนนำพรรคประชาราช ได้เดินทางมาถึงแล้ว และรับประทานอาหารร่วมกันที่ห้องเพลินจิต
ทั้งนี้ มีรายงานว่า แกนนำของทั้ง 6 พรรคการเมืองมีกำหนดจะแถลงข่าวร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลและสนับสนุนนายสมชายเป็น นายกฯ ตามมติของพรรคพลังประชาชนในเวลาประมาณ 20.30 น.
ด้านนายสมชาย กล่าวก่อนการรับประทานอาหารร่วมกับแกนนำ 6 พรรคการเมืองว่า พร้อมทำหน้าที่นายกฯ อย่างบริสุทธิ์ใจเพื่อส่วนรวมมากแม้ต้องรับภาระมากขึ้น ซึ่งการทำงานทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันและจะกล้าตัดสินใจผลักดันในสิ่งที่ถูก ต้องอย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า ไม่ใช่นอมินี โดยจะให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
“เรารู้จักกับใคร หรือ เราเป็นญาติใคร เราใกล้ชิดใครเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่อยู่ที่ตัวเราว่า จะว่างตัวอย่างไร วางตัวให้คนเห็นหรือไม่ว่า เราขึ้นมาแล้วเอื้อประโยชน์ให้พรรคพวก ให้คนใกล้ชิด หรือ เครือญาติหรือเปล่า อันนี้ ตนคิดว่า ควรคำนึงถึง ดังนั้น ควรต้องให้มีการตรวจเช็ค หรือ จับตามอง” รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าว
นายสมชาย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล ว่า เห็นว่า ทำเนียบฯ เป็นสมบัติของชาติไม่อยากให้นำไปใช้ในทางเสียหาย และถึงเวลาก็ควรจะทวงคืนขอขอบคุณหนังสือพืมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/
โดยนางสาวเกษศิณี กรกนก 5131601012
นายชาญภิวััฒน์ คำมะโนชาติ 5131601042
นางสาววรรณิศา ธะนะคำ 5131601169
นางสาวกนกวรรณ คงไพศาล 5131601219
นายกฯ มาเลย์ปัดเจรจามอบอำนาจให้อันวาร์ตั้งรัฐบาลใหม่
เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวีแห่งมาเลเซียไม่ยอมรับคำกล่าวอ้างของอันวาร์ อิบรอฮิม ที่ว่าพรรคฝ่ายค้านได้รับแรงสนับสนุนมากเพียงพอที่จะยึดอำนาจของรัฐบาลได้แล้ว พร้อมทั้งปฏิเสธว่าเขาไม่ได้กำลังถูกกดดันให้ลาออก ผู้นำพรรคฝ่ายค้านออกมาประกาศตั้งรัฐบาลใหม่ โดยมีวุฒิสมาชิกของรัฐบาลที่แปรพักตร์ร่วมด้วย และยังระบุว่า เขามีผู้สนับสนุนกว่า 10,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่สามารถเอาชนะรัฐบาลแห่งชาติ ในปัจจุบันได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น อันวาร์ยังแสดงความต้องการที่จะเจรจากับนายกรัฐมนตรีในเรื่องการส่งมอบอำนาจ โดยเผยว่าผู้แทนพรรคฝ่ายค้านได้ยื่นหนังสือถึงอับดุลเลาะห์ เรียกร้องให้มีการเจรจาหารืออนาคตทางการเมืองด้วย อับดุลเลาะห์กล่าว เมื่อถูกถามว่าเขาถูกบีบให้ลาออกหรือไม่ว่า “ทำไมผมต้องรู้สึกกดดัน มันเป็นเพียงแค่ความฝัน หากมันเป็นจริง เขาจะต้องประกาศออกมาแต่ตอนนี้ โลกทั้งโลกจะต้องได้รับรู้” “คุณคิดว่าเขาจะขอให้มีการประชุมหารือการส่งมอบอำนาจกับผมอย่างนั้นหรือ เขาจะต้องระดมพลหลายร้อยคนที่อยู่เบื้องหลังเขาเข้ามาในห้องของผม แล้วประกาศชัยชนะ นี่คือแบบของอันวาร์” นายกรัฐมนตรีแดนเสือเหลืองกล่าวในการแถลงข่าว หลังจากชัยชนะครั้งใหญ่ของพรรคฝ่ายค้าน ในการเลือกตั้ง ที่ทำให้มีที่นั่งในรัฐสภามากขึ้น เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อันวาร์ได้กำหนดเส้นตายวันที่ 16 กันยายน ซึ่งเป็นวันชาติของมาเลเซีย เพื่อที่จะโค่นล้มพรรครัฐบาลบาริซัน เนชันนัล โดยการชักชวนวุฒิสมาชิกอย่างน้อย 30 คนให้ย้ายพรรค
วิเคราะห์ข่าว
การเมืองของมาเลเซียตอนนี้ก็เข้าขั้นวิกฤตณ์เช่นเดียวกันดูเหมือนว่ามีท่าทีที่มาเลเซียจะมีรัฐบาลใหม่ในเร็วๆนี้เป็นแน่หากอันวาร์ไม่พลาดท่าเสียก่อน
วิเคราะห์ข่าวโดย นายรวมเลิศ สุภานันท์ ตอนเรียน1 5131601165
"ซิมบับเว" ลงนามตั้ง รบ.แห่งชาติสำเร็จ
วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551
“โมเช่” ไม่หวั่นสภาล่ม! ตีปี๊บเรียกโหวตนายกฯ 17 ก.ย.นี้
วันนี้ (15 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้มีคำสั่งนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ ในวันพุธที่ 17 กันยายนนี้ เวลา 09.30 น. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมวรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 172 ซึ่งเป็นเรื่องที่ค้างพิจารณาจากการประชุมเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา จากเหตุการณ์องค์ประชุมล่ม มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมไม่ครบองค์ประชุม ทำให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรสั่งเลื่อนการประชุมมาเป็นวันดังกล่าวแทน
นอกจากนี้ยังมีวาระการประชุมที่สำคัญภายหลังการลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว เช่น ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว และเรื่องด่วน ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ที่ ป.ป.ช.เป็นผู้เสนอ รวมถึงร่าง พ.ร.บ.ทำนองเดียวกันที่สมาชิกเสนอ และยังมีร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ที่คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอด้วย และรับทราบรายงานผลการดำเนินงานกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2550 โดยสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้เสนอ
วิเคราะห์ข่าว
ถ้าคราวนี้พรรคพปช.ยังไม่เข้าร่วมอีกก็คงเกิดปัญหาใหญ่ตามมาในเรื่องการแก้ปัญหาและอาจถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักวิชาการและประชาชนทั่วไปอีกด้วยทำให้เกิดศรัทธาด้านลบต่อพรรคพลังประชาชนในหมู่ผู้สนับสนุน
วิเคราะห์ข่าวโดย นายรวมเลิศ สุภานันท์ ตอนเรียน1 รหัสนศ.5131601165
ดวงเมืองในช่วงวันที่ 15 -21 ก.ย.2551
เศรษฐกิจ จะยังมีข่าวในทางลบต่อภาวะเศรษฐกิจต่อไป ถึงแม้จะมีข่าวดี เช่น ราคาน้ำมันดิบโลกลดลง เป็นต้น แต่ข่าวการเมืองและภาวะเศรษฐกิจอเมริกาถดถอย ก็จะมีอิทธิพลดึงให้เศรษฐกิจโลก รวมถึงประเทศไทยชะลอตัวลดลง
ดังนั้น ตลาดหุ้นในบ้านเรา จะยังคงปรับตัวลดลงต่อไปจนถึง 29 ต.ค.2551 และก่อนที่จะถึงวันดังกล่าว อาจมีการปรับขึ้น แต่น้อย โดยเฉลี่ยแล้วปรับลดลง
การเมือง จะยังคงอึมครึมต่อไป จนถึงวันที่ 24 ก.ย.2551 และต่อจากนี้จะดีขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในความวิตกกังวลของผู้คนในสังคมไทยอยู่บ้าง ในเรื่องกองทัพที่เข้าแทรกการเมือง
เรื่องทั่วไป ดาวเสาร์เกาะพยางค์พุธในเรือนปุตตะ จะยังคงมีความเสี่ยงเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ ทั้งในส่วนของฝนแล้งและฝนตกมาก ทำให้น้ำท่วมไปพร้อมๆกับความแห้งแล้ง เพียงแต่ต่างสถานที่กัน
วิเคราะห์
โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าดวงการเมืองแบบนี้สามารถคาดคะเนได้โดยไม่ต้องอาศัยหมอดูหรอกครับแต่ก็เป็นการคาดคะเนที่น่าจะลองอ่านดูนะครับ
ที่มา www.newswit.net/tag/ดวงเมือง/
โดย นายรวมเลิศ สุภานันท์ ตอนเรียน1 รหัสนักศึกษา5131601165
พันธมิตรฯ ปรับสมรภูมิ ยันไม่เสร็จศึกไม่กลับ
วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2551
หาเสียงผู้ว่าฯ กทม. คึกคัก 'ประภัสร์' จ๊ะเอ๋ 'อภิรักษ์'
เราอ่านแต่ข่าวพันธมิตรฯ มาเยอะแล้ว วันนี้ ผู้เขียน นำข่าวเกี่ยวกับ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มาเสนอครับ
ผู้ สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (14 ก.ย.) ถึงบรรยากาศการหาเสียงการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่กำหนดจัดการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 5 ต.ค.นี้ ว่า ผู้สมัครหลายคนได้ออกรณรงค์หาเสียงตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตาม ที่ย่านตลาดน้ำตลิ่งชัน นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ผู้สมัครหมายเลข 2 ได้พบกับคณะหาเสียงของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครหมายเลข 8 โดยบังเอิญ หลังจากนั้น ผู้สมัครทั้ง 2 คน ได้โอบกอดและอวยพรให้กันก่อนจะแยกย้ายกันหาเสียงต่อไป
ส่วนที่ย่าน ถ.พหลโยธิน ร.อ.เมตตา เต็มชำนาญ ผู้สมัครหมายเลข 3 ได้ออกหาเสียง โดย ร.อ.เมตตาว่า ออกหาเสียงมาตั้ง แต่วันที่ 1 ก. ย.ที่ผ่านมา แต่ไม่ค่อยมีสื่อมวลชนทราบจึงไม่เป็นข่าว อย่างไรก็ตาม ตนเห็นสภาพปัญหาของกรุงเทพฯ ในวันนี้ คือ ปัญหาน้ำท่วมจึงเสนอตัวว่า หากได้เข้ามาเป็นผู้ว่าฯ ปัญหาน้ำท่วม กทม. จะหมดไป เพราะจะใช้วิธีสนธิกำลังทุกหมู่เหล่า ทหาร ตำรวจและลูกเสือชาวบ้าน รวมทั้งจะไปขอความร่วมมือกรมราชทัณฑ์นำผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษมาช่วยกัน บรรเทาปัญหาน้ำท่วม
ขอบขอบคุณหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มากๆครับผม
โดย นางสาวเกษศิณี กรกนก ID5131601012
นางสาวกนกวรรณ คงไพศาล ID5131601219
นายชาญภิวัฒน์ คำมะโนชาติ ID5131601042
วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2551
การปกครองประเทศต่างๆ
ประธานาธิบดี (Ra'is-e Jomhoor)
เป็นตำแหน่งที่ได้รับเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนทุก ๆ 4 ปี และจะได้รับเลือกตั้งได้ไม่เกิน 2 สมัย ทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายบริหาร ถึงแม้ประธานาธิบดีจะได้รับเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนก็ตาม แต่อาจถูกถอดถอนจากตำแหน่งโดยประมุขสูงสุดได้ นั่นก็คือ Rahbar สามารถถอดถอน ประธานาธิบดีได้ครับ
รองประธานาธิบดี
มีตำแหน่งรองประธานาธิบดี 6 คน และคณะรัฐมนตรี 20 คน ที่ได้รับความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (Majlis)
ประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนทุก ๆ 4 ปี จำนวน 290 คน ทำหน้าที่ออกกฎหมายและควบคุมฝ่ายบริหาร
ชื่อประเทศ ชื่อเต็ม United States of America เรียกว่า สหรัฐอเมริกา
ชื่อย่อ United States เรียกว่า สหรัฐฯ อักษรย่อ US หรือ USA
ระบอบการปกครอง สหพันธรัฐ (Federal Republic); แบบประชาธิปไตย โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขและเป็นหัวหน้ารัฐบาล (Chief Executive) ภายใต้รัฐธรรมนูญ
เมืองหลวง กรุงวอชิงตัน (Washington,D.C.)
ประทศสหรัฐก็จะมีการแบ่งการปกครอง ประกอบด้วย 50 มลรัฐและ 1 District (District of Columbia ซึ่งเป็นที่ตั้งของ กรุงวอชิงตัน) ได้แก่ Alabama, Alaska (เป็นมลรัฐที่ใหญ่ที่สุด), Arizona, Arkansas, California, Colorado, Connecticut, Delaware, District of Columbia, Florida, Georgia, Hawaii, Idaho, Illinois, Indiana, Iowa, Kansas, Kentucky, Louisiana, Maine, Maryland, Massachusetts, Michigan, Minnesota, Mississippi, Missouri, Montana, Nebraska, Nevada, New Hamshire, New Jersey, New Mexico, New York, North Carolina, North Dakota, Ohio, Oklahoma, Oregon, Pennsylvania, Rhode Island (เป็นมลรัฐที่เล็กที่สุด), South Carolina, South Dakota, Tennessee, Texas, Utah, Vermont, Virginia, Washington, West Virginia, Wisconsin, Wyoming
สิทธิในการเลือกตั้ง อายุ 18 ปีขึ้นไป
ประมุขของประเทศ นาย George Walker Bush เป็นประธานาธิบดี คนที่ 43 และหัวหน้ารัฐบาล เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2548 สังกัดพรรครีพับริกัน และมีนาย Richard B. Cheney เป็นรองประธานาธิบดี
โครงสร้างทางการเมือง
การปกครองแบบสหพันธรัฐ แบ่งแยกอำนาจออกเป็น 3 ฝ่าย ภายใต้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ แต่ละฝ่ายได้รับเลือกในลักษณะที่แตกต่างกัน และมีการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน (checks and balances) ดังนี้
ฝ่ายบริหาร มีประธานาธิบดีเป็นประมุข ได้รับเลือกจากการเลือกตั้งทั่วไป ร่วมกับรองประธานาธิบดีทุก 4 ปี ในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้งผ่านคณะผู้เลือกตั้ง ( Electoral College ) จำนวน 538 คน ดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 สมัย สมัยละ 4 ปี ประธานาธิบดีจะเป็นผู้ร่างรัฐบัญญัติต่อรัฐสภา และทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้ทำสนธิสัญญาต่างๆ ตลอดจนแต่งตั้งผู้พิพากษา เอกอัครราชทูตและตำแหน่งต่างๆของฝ่ายบริหารตั้งแต่ระดับรองผู้ช่วยรัฐมนตรี (Deputy Assistant Secretary) ขึ้นไป
วุฒิสภา มีสมาชิกจากแต่ละมลรัฐ มลรัฐละ 2 คน รวมเป็น 100 คน ดำรงตำแหน่งสมัยละ 6 ปี โดยสมาชิกจำนวน 1 ใน 3 ครบวาระทุก 2 ปี วุฒิสภามีอำนาจให้ความเห็นชอบหรือปฎิเสธบุคคลที่ประธานาธิบดีแต่งตั้ง รวมทั้งคณะรัฐมนตรี และให้สัตยาบันสนธิสัญญา รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง (President of the Senate) คือนาย Richard B. Cheney หัวหน้าฝ่ายเสียงข้างมาก (Majority Leader)ในวุฒิสภา ได้แก่ นาย Bill First (R-Tennessee) หัวหน้าฝ่ายเสียงข้างน้อย (Minority Leader) ได้แก่ นาย Thomas A. Daschle (D-South Dakota)
สภาผู้แทนราษฎร มีสมาชิก 435 คน แบ่งตามสัดส่วนของประชากรในมลรัฐ คือ ประชากร 575,000 คน ต่อ สมาชิก 1 คน ดำรงตำแหน่งสมัยละ 2 ปี ประธานสภา (Speaker of the House) ได้แก่ นาย Dennis Hastert (R-Illinois) ผู้นำเสียงข้างมาก คือ นาย Tom DeLay (R-Texas) ส่วนผู้นำเสียงข้างน้อย คือ นาย Nancy Pelosi (D-California)
รัฐธรรมนูญ ประกาศใช้เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2490 (ค.ศ. 1947) หลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ประมุข สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ (His Majesty Emperor Akihito)
นายกรัฐมนตรี นายชินโซ อาเบะ (Shinzo Abe) (หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย - LDP) เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 26 กันยายน 2549 (ตอนนี้ได้ประกาศลาออกอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ)ST@politicss
รมต. ต่างประเทศ นายทาโร อะโซ (Mr. Taro Aso) เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 26 กันยายน 2549 (รับตำแหน่งรมต.
ต่างประเทศครั้งแรกเมื่อ 31 ตุลาคม 2548) คนที่เป็นที่คาดหมายว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปครับ
รัฐสภา เรียกชื่อว่า “สภาไดเอท” ประกอบด้วย สภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives) ซึ่งมีสมาชิก 480 คน
มาจากการเลือกตั้งทั่วประเทศมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี และวุฒิสภา (House of Councillors) ซึ่งมีสมาชิก 242 คน
มีวาระในการดำรงตำแหน่ง 6 ปี โดยเลือกตั้งจำนวนครึ่งหนึ่งสลับกันไปทุก 3 ปี
-ประธานสภาผู้แทนราษฎร (Speaker of the House of Representatives) นายโยเฮ โคโนะ (Yohei Kono)
- ประธานวุฒิสภา (President of the House of Councillors) นางจิคาเกะ โอกิ (Chikage Oogi)
การเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎรมีการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อ 11 กันยายน 2548 วุฒิสภามีการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เมื่อ 11 กรกฎาคม 2547 โดยจะมีการเลือกตั้งครั้งต่อไปจำนวนครั้งหนึ่ง (141 คน) สมาชิกครึ่งหนึ่ง ในทุก 3 ปี เเละจะมีการเลือกตั้งใหม่ในช่วงกลางปี 2550
294 ที่นั่ง (สตรี 26 คน) ในวุฒิสภา 111 ที่นั่ง (สตรี 12 คน) หัวหน้าพรรคคือนายชินโซ อาเบะ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
24 ที่นั่ง (สตรี 5 คน) หัวหน้าพรรคคือนายฮากิฮิโร โอตะ (Akihiro Ota)
2 คน) ในวุฒิสภา 9 ที่นั่ง (สตรี 3 คน) หัวหน้าพรรคคือนายคาซึโอะ ชิอิ (Kazuo Shii)
(1) การเมืองการปกครอง
ในระบอบการปกครองของจีนพรรคคอมมิวนิสต์จะเป็นผู้กำหนดนโยบายทุกด้านให้รัฐบาลไปปฏิบัติ (รัฐบาลจึงไม่ใช่องค์กรกำหนดนโยบาย) โดยจีนมีนโยบายภายในที่สำคัญ ดังนี้
1.1 เน้นการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเปิดประเทศเพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และกำหนดเป้าหมายให้ GDP เพิ่มขึ้นอีก 4 เท่าตัว และทำให้จีนสร้างความกินดีอยู่ดี “เสี่ยวคาง” แก่คนจีนในระดับเดียวกับประเทศที่กำลังพัฒนาในระดับกลาง ภายในปี 2563 (ค.ศ. 2020) ในขณะเดียวกัน ก็ต้องแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำของระดับการพัฒนาระหว่างภาคตะวันออกกับภาคตะวันตก ซึ่งอาจนำมาซึ่งปัญหาการเมือง สังคม ความแตกแยกของชนชาติที่รุนแรง จึงได้กำหนดให้พัฒนาภาคตะวันตกไปในเวลาเดียวกันด้วย
1.2 จีนเน้นการปฏิรูปทางการเมืองอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในขณะเดียวกัน เพื่อลดกระแสกดดันการเรียกร้องให้ปฏิรูปการเมือง ซึ่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนประเมินแล้วว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในระยะ 10 ปีข้างหน้า นายเจียง เจ๋อหมิน อดีตประธานาธิบดีจีน จึงได้เสนอหลักการ 3 ตัวแทนขึ้นมาและบรรจุลงไปในธรรมนูญของพรรค หลักการ 3 ตัวแทน จะสามารถลดแรงกดดันของกลุ่มนายทุนใหม่และนักวิชาการเรื่องปฏิรูปการเมืองได้ โดยพรรคคอมมิวนิสต์เปิดกว้างให้คนเหล่านี้เข้าไปมีส่วนร่วมในพรรคและการบริหารประเทศได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ จีนได้เริ่มปล่อยให้การปกครองระดับท้องถิ่นในระดับตำบลและเมือง (อำเภอ) มีการเลือกตั้งโดยอิสระแล้วตั้งแต่ปี 2538
หลักการสามตัวแทน ได้กำหนดให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นตัวแทนใน 3 ด้าน คือ
(1) ด้านการผลิต โดยดูแลการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
(2) ด้านวัฒนธรรม โดยดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีของจีน และนำวัฒนธรรมอื่นที่ดี
มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ
(3) เปิดให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นตัวแทนของประชาชนทุกชนชั้น
กล่าวคือ ได้เปิดให้กลุ่มนายทุนและนักธุรกิจ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่
พรรคกำหนดเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค และมีส่วนร่วมทางการเมืองเพิ่มขึ้น
ถือเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของพรรคจากตัวแทนเชิงปฏิวัติ หรือตัวแทน
ของชนชั้นแรงงาน เป็นตัวแทนเชิงบริหาร หรือตัวแทนของประชาชนทุกชนชั้น
(2) พรรคคอมมิวนิสต์จีน
สาธารณรัฐประชาชนจีนปกครองในระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์มีพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งมีสมาชิกประมาณ 68 ล้านคน (สถิติปี 2547) เป็นสถาบันทางการเมืองที่มีอำนาจในการกำหนดนโยบายด้านต่างๆ ของประเทศอย่างเบ็ดเสร็จตามแนวทางลัทธิมาร์กซ์-เลนิน ความคิดของอดีตประธานาธิบดีเหมา เจ๋อตง ทฤษฎีการสร้างสรรค์สังคมนิยมที่มีเอกลักษณ์แบบจีนของเติ้ง เสี่ยวผิง รวมถึงทฤษฎีสามตัวแทนที่ได้รับการบรรจุเข้าในธรรมนูญของรัฐเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2545 โดยรัฐบาลและรัฐสภามีหน้าที่คอยปฏิบัติตามมติและนโยบายที่พรรคกำหนดโดยยึดหลักประชาธิปไตยรวมศูนย์ (Democratic Centralism) ตามธรรมนูญพรรค กำหนดให้มีการประชุมสมัชชาพรรคแห่งชาติ (Party Congress) ทุก 5 ปี นับตั้งแต่ได้มีการจัดตั้งพรรคขึ้นในปี 2464 จนถึงปัจจุบัน พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้จัดให้มีการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์แล้วรวมทั้งสิ้น 16 ครั้ง โดยได้จัดประชุมสมัชชาพรรคสมัยที่ 16 ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2545 ซึ่งนายหู จิ่นเทา ได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ คนปัจจุบัน (วาระ 5 ปี)
การเมืองภายในจีนยังคงมีเสถียรภาพภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อวันที่ 8-14พฤศจิกายน 2545 ได้มีการประชุมสมัชชาพรรคสมัยที่ 16 ซึ่งมีการถ่ายโอนอำนาจจากผู้นำรุ่นที่ 3 ซึ่งมีนายเจียง เจ๋อหมิน เป็นแกนนำ ไปยังรุ่นที่ 4 ซึ่งมีนายหู จิ่นเทา เป็นแกนนำ
ที่ประชุมได้แต่งตั้งนายหู จิ่นเทา เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน สืบแทนนายเจียง เจ๋อหมิน พร้อมทั้งแต่งตั้งสมาชิกถาวรประจำกรมการเมือง (Members of Standing Committee of the Political Bureau of the Central Committee of CPC) อีก 8 คน ถือได้ว่าบุคคลทั้ง 9 คนนี้ เป็นผู้ที่มีความสำคัญทางการเมืองระดับสูงสุดของจีน
ระหว่างวันที่ 5-18 มีนาคม 2546 ได้มีการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติสมัยที่ 10 ขึ้น ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการสรุปผลการบริหารประเทศในช่วง 5 ปี พร้อมทั้งแต่งตั้งผู้นำรัฐบาลชุดใหม่ โดยได้แต่งตั้งให้ นายหู จิ่นเทา เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นประธานาธิบดี (สืบแทนนายเจียง เจ๋อหมิน) และนายเวิน เจียเป่า เป็นนายกรัฐมนตรี (สืบแทนนายจู หรงจี) ในขณะที่ นายเจียง เจ๋อหมิน ยังคงดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทหารพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่อไปอีกสมัย
ต่อมา ในการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 4 ของสมัชชาพรรคสมัยที่ 6 ระหว่างวันที่ 16-19 กันยายน 2547 ได้อนุมัติให้นายหู จิ่นเทา ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทหาร (สืบแทนนายเจียง เจ๋อหมิน) โดยจะมีผลเมื่อได้รับความเห็นชอบจากสภาประชาชนในเดือนมีนาคม 2548
ผู้นำจีน
สมัชชาพรรคสมัยที่ 16 ได้คัดเลือกบุคคลเป็นสมาชิกกรมการเมืองจำนวน 25 คน (เพิ่มจากเดิม 3 คน) และสมาชิกกรมการเมือง 25 คนนี้ ได้เลือกตั้งสมาชิกถาวรประจำกรมการเมือง (Standing Committee of the Political Bureau of the Central Committee) จำนวน 9 คน (เพิ่มขึ้นจากเดิม 2 คน) เรียงตามลำดับอาวุโส ได้แก่
(1) นายหู จิ่นเทา (Hu Jintao)
(2) นายอู๋ ปางกั๋ว (Wu Bangguo)
(3) นายเวิน เจียเป่า (Wen Jiabao)
(4) นายเจี่ย ชิ่งหลิน (Jia Qinglin)
(5) นายเจิง ชิ่งหง (Zeng Qinghong)
(6) นายหวง จวี๋ (Huang Ju)
(7) นายอู๋ กวานเจิ้ง (Wu Guanzheng)
(8) นายหลี่ ฉางชุน (Li Changchun)
(9) นายหลัว ก้าน (Luo Gan)
พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน: พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร(พระนามเดิมพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลเดช)
เดิมประเทศไทยมีการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ จนกระทั่งวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 คณะราษฎรไ ด้ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ปัจจุบันประเทศไทยปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยแบ่งอำนาจเป็นสามฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายตุลาการ โดยฝ่ายบริหารจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาลซึ่งมากจากการแต่งตั้ง ฝ่ายนิติบัญญัติ ได้แก่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งมาจากการแต่งตั้ง และฝ่ายตุลาการ คือ ศาลยุติธรรม ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลปกครองซึ่งมาจากการปฏิรูปทางเมืองจึงเกิดศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญ
เมืองหลวง: กรุงเทพมหานคร (Bangkok)
ได้รับสิทธิในการเลือกตั้ง: อายุ 18 ปี; ให้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง แก่พลเมืองทั้งมวล
ฝ่ายบริหาร:
ฝ่ายนิติบัญญัติ: bicameral National Assembly หรือรัฐสภา ประกอบด้วยวุฒิสภา 150 คน สภาผู้แทนราษฏร 480 คน
ฝ่ายตุลาการ: ศาลฎีกา (ผู้พิพากษาแต่งตั้งโดยพระมหากษัตริย์)
ทุกอย่างเข้าแผนของพรรคอำมาตยธิปัตย์หมด หนอนที่เขาปล่อยไปฝังตัวตามกลุ่มผู้สนับสนุนทักษิณแต่ละกลุ่มเริ่มแตกแยกกันเอง
บทความมีอยู่ว่า
ทุกอย่างเข้าแผนของพรรคอำมาตยธิปัตย์หมด หนอนที่เขาปล่อยไปฝังตัวตามกลุ่มผู้สนับสนุนทักษิณแต่ละกลุ่มเริ่มแตกแยกกันเอง
"มีการปล่อยข่าวลวงข่าวหลอกกันให้มั่วไปหมด สถานีวิทยุออนไลน์ที่สนับสนุทักษิณที่มีหลายเว็บ(แตกกันตั้งแต่ต้นแล้ว)ให้ข้อมูลข่าวสารต่างกัน สับสนกันไปหมด ไม่รู้ข้อมูลข่าวสารไหนจริงไหนเท็จกองเชียร์ที่สนับสนุนทักษิณเริ่มสับสนท้อแท้ เริ่มหันปากมาด่ากันเอง บางเว็บมีการปล่อยข่าวลวงเรื่องหักหลังทักษิณให้คน พปช.ด่ากันเองสุดท้ายพรรค พปช.คงต้องแตกสลาย และทักษิณก็คงต้องเคว้งคว้างอยู่ต่างประเทศไปอีกนานแสนนานพรรคอำมาตยาธิปัตย์ก็จะได้ครองอำนาจรับใช้อำมาตย์อย่างเต็มตัวต่อไปนานเท่านานหนอนที่ฝ่ายอำมาตยาธิปัตย์ปล่อยมาครั้งนี้ทำงานเข้าเป้าได้อย่างดี หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการปล่อยหนอน 2 ตัว(เท่าที่ปรากฏทางสื่อ)
หนอนอย่างเตมูจิน ไทกรที่ปล่อยมานั้นทำงานผิดพลาดไม่ได้ผลเท่าที่ควรผู้ที่สนับสนุนทักษิณจะปล่อยให้ทุกอย่างเสื่อมสลายลงไปๆๆๆอย่างน่าเสียใจอย่างนั้นหรือ?
จะมานั่งชี้หน้าโทษกันเองกันไปกันมาอย่างนี้หรือ?
ไม่น่าจะเป็นทางออกที่ถูกต้องนะครับผมว่ามันไม่ได้ประโยชน์อะไรนะครับ อย่าไปหลงเชื่อหนอนทั้งหลายที่ออกมาก่อการชี้นำก่อน ขอให้หนักแน่นกันเข้าไว้ครับ อย่าให้หนอนหลอก "
อ่านข้อความจากต้นฉบับได้ที่ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6995954/P6995954.html
ท่านผู้ชมคิดอย่างไรกับบทความที่ทางเรายกประเด็นมานะครับ ลองมาตีความหาความหมายร่วมกันได้นะครับ
Post by
Mr.Nuttachai Nalampang ID 5131601061 Section 1
อดีต สสร.ตอกหน้า “สามเกลอ” แจงการสอนหนังสือของ “จรัญ” ไม่ผิด รธน.
ท่านคิดยังไรกับการเมืองในปัจจุบันนี้
ป้ายกำกับ
- หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ หน้าหนึ่ง (2)
- "ซิมบับเว" ลงนามตั้ง รบ.แห่งชาติสำเร็จ (1)
- "ปลาไหล"ขยาดยุบพรรค หั่นทิ้งกก.บห.เหลือหนึ่งโหล (1)
- AIG ดิ้นหนีล้มละลาย ธ.กลางทั่วโลกเร่งอัดฉีดเงินค้ำระบบการเงิน (1)
- YPD ฉีกหน้า “หมัก-โกวิท” เลิกทำตัวเป็นหัวหน้าซ่องโจร (1)
- http://www.innnews.co.th/sombat.php?nid=126965 (1)
- กลอนเจ็บๆจากเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ (1)
- ความเห็นจากนักวิชาการ (1)
- คำต่อคำ “หมัก” แหลด่าพันธมิตรฯ (1)
- คุณคิดหรอว่าการประท้วงคือทางออกที่ดีที่สุด???? (1)
- จับตาแคนดิเดตนายกฯ รองโฆษก พปช.รับมีสายตรงจากลอนดอน (1)
- ดวงเมืองในช่วงวันที่ 15 -21 ก.ย.2551 (1)
- ด้านสุดบรรยาย มติ พปช.หนุน “หมัก” กลับมาอีกอ้างรักษา ปชต. (1)
- นรกป่วนกรุงเหิมเกริม ขู่หาก “หมัก” ลาออกจะบุกยึดรัฐสภาทันที (1)
- นศ.ประณาม “หมัก” ปากมอมตำหนิเข้าร่วมชุมนุมพันธมิตรฯ (1)
- นับถอยหลัง “หมัก” ตกเก้าอี้ ศาลนัดชี้ชิมไปฯ พรุ่งนี้ 14.00 น. (1)
- นายกฯ มาเลย์ปัดเจรจามอบอำนาจให้อันวาร์ตั้งรัฐบาลใหม่ (1)
- ปชป.ตอกลิ่มรัฐบาลไร้เอกภาพ (1)
- ประกาศจากพันธมิตร (1)
- ประท้วงNBT (1)
- ผบ.สส.ปัดใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน (1)
- พปช.หวั่นพรรคร่วมเปลี่ยนขั้ว มัดมือ ส.ส.โหวต “นายกฯ” ศุกร์นี้ (1)
- พปช.หางโผล่ ลั่นผนึก นปก.ต้านพันธมิตรฯ โวม็อบนับแสน (1)
- พผ.ยังวุ่น ส.ส.ป่วน โผ ครม.ไม่ลงตัว “สุวิทย์” ถอนตัว (1)
- พลังประชาชนงัดแผนสกปรก ระดม 7 หมื่นสมทบ"นรกป่วนกรุง"พรุ่งนี้ (1)
- พันธมิตรฯ ปรับสมรภูมิ ยันไม่เสร็จศึกไม่กลับ (1)
- พันธมิตรฯ ผวาพบอาวุธเพียบ (1)
- พันธมิตรฯ เก็บกวาดทำเนียบฯ ยันไร้โรคระบาด (1)
- พันธมิตรฯ แถลงชุมนุมต่อหลัง"หมัก"สิ้นสภาพนายกฯ (1)
- ภาพชัดๆ “ปืนจ่อหัว” พิสูจน์ “ความด้าน” ของตำรวจไทยและ “สมัคร” (1)
- มหาเธร์เตรียมร่วมพรรคอัมโนอีกครั้ง หลังลาออกเพื่อบีบอับดุลเลาะห์ (1)
- รณรงค์วันแม่ถึงวันพ่อรู้รักสามัคคี (1)
- รวมภาพหน้า นสพ.ฉบับเช้า 30 ส.ค. (1)
- รับน้องหรือทรมานน้อง? (1)
- ลือ “หอกหัก” แพ้ภัยตัวเอง เตรียมไขก๊อกทิ้งเก้าอี้ หน.พรรค (1)
- สนธิมั่นใจชนะแน่ (1)
- อดีต สสร.ตอกหน้า “สามเกลอ” แจงการสอนหนังสือของ “จรัญ” ไม่ผิด รธน. (1)
- โพลชี้ 'โอบามา' พลิกนำ 'แมคเคน' อีก (1)
- โสมแดงปัดข่าวลือ “คิม” ป่วยหนัก-เผยเตรียมเปิด รง.นิวเคลียร์อีก (1)
- ใครจะสามารถชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาได้กันนะ (1)
- “พลังแม้ว”พร้อมเคาะชื่อ“หน.ลูกกรอก”คนใหม่จันทร์นี้ (1)
- “พัลลภ” เตือน “หมัก” อย่าดื้อเจออารยะขัดขืนทั่วเมือง (1)
- “สื่อเทศ” โหมข่าวประชามติ “หมัก” แหล สาปแช่งตกเก้าอี้ (1)
- “หอกหัก” สติแตกสั่ง ตร.นับร้อยอารักขาบ้านพัก (1)
- “โมเช่” ไม่หวั่นสภาล่ม ตีปี๊บเรียกโหวตนายกฯ 17 ก.ย.นี้ (1)