เชียร์ 51

ข่าวเด็ด

วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ปชป.ตอกลิ่มรัฐบาลไร้เอกภาพ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการเมืองหลังปรับ ครม.ใหม่ ซึ่งมีเสียงวิจารณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังมีอิทธิพลอยู่ว่า วันนี้ทุกอย่างก็ยังต้องเดินไปข้างหน้า หวังว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะหาทางที่จะทำให้รัฐบาลเดินหน้าได้ด้วยความเชื่อมั่น ด้วยความมีเอกภาพ และทำงานให้เป็นที่ยอมรับ การเมืองก็อยู่ตรงนี้ ส่วนบทบาทของใคร ที่ไหน อย่างไร จะมีมากน้อยแค่ไหนก็ตาม หากรัฐบาลทำงานสำเร็จ การเมืองก็เป็นบวกกับรัฐบาล แต่ถ้ารัฐบาลทำงานโดยไม่มุ่งแก้ไข ปัญหาของประชาชน บ้านเมืองจะมีปัญหายืดเยื้อออกไปเรื่อยๆ

เผย “สุวิทย์” เพิ่งติดโผยื่นถอดถอน

น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งอนุกรรมการพิจารณาไต่สวน ครม.ทั้งคณะข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีออกมติ ครม.สนับสนุนการลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาให้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกว่า ได้ขอเอกสารที่เกี่ยวข้องจากเลขาธิการ ครม.และกระทรวงการต่างประเทศไปแล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะได้เอกสารมาศึกษา จากนั้นคณะอนุกรรมการจะดูว่าเอกสารที่ได้มามีความสมบูรณ์เพียงพอหรือไม่ จะต้องเรียกพยานบุคคลมาให้ปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ จะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว ล่าสุดมีผู้ยื่นเรื่องให้ถอดถอนนายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.อุตสาหกรรม ต่อ ป.ป.ช.แล้ว หลังจากที่คำร้องเรียนเรื่องการถอดถอน ครม.ทั้งคณะของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก่อนหน้านี้ไม่มีชื่อของนายสุวิทย์ร่วมอยู่ด้วย

“เลี้ยบ” โบ้ย ป.ป.ช.ไม่แนะนำเรื่องหุ้น

สำหรับกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา จะยื่นหนังสือให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบข้อมูลการถือหุ้นของนางปราณี สืบวงศ์ลี ภรรยาของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและ รมว.คลัง ที่เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนบุคคลและคณะบุคคล 9 แห่ง รวมมูลค่า 1.7-1.8 ล้านบาทนั้น นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า เคยแสดงบัญชีทรัพย์สินให้ ป.ป.ช.รับทราบไปแล้วเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา รายละเอียดแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ 1. หุ้นที่มีอยู่ในบริษัทจำกัด มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท ได้โอนหุ้นให้นิติบุคคลบริหารจัดการทรัพย์สินไปดำเนินการต่อ 2. หุ้นที่ถืออยู่ในห้างหุ้นส่วนบุคคลและคณะบุคคลมูลค่า 1.7-1.8 ล้านบาท ในการจัดตั้งครั้งแรกมีการถือหุ้นเพียง 2 คน และไม่ได้มีการตีมูลค่าเป็นหุ้นไว้ จึงไม่สามารถจำหน่ายหุ้นออกตามกฎหมายแพ่งได้ แต่เรื่องดังกล่าวได้ชี้แจงให้ ป.ป.ช.รับทราบแล้วในคราวเดียวกับเมื่อวันที่ 6 มี.ค. เพื่อขอรับทราบแนวทางในการดำเนินการในส่วนนี้ต่อไป แต่ ป.ป.ช.ไม่ได้แนะนำหรือให้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์เลย จึงไม่ทราบว่าต้องดำเนินการอย่างไร

“กรณ์” ได้ทีจี้เสียสละไขก๊อก

ขณะที่นายกรณ์ จาติกวนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจที่เรื่องนี้เพิ่งถูกพูดถึง เพราะใครๆก็รู้ว่า นพ.สุรพงษ์และภรรยามีหุ้นส่วนในบริษัทบอดี้เชพ ซึ่งเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ นพ.สุรพงษ์ ควรลาออกตั้งแต่โดนคดีหวยบนดิน และยิ่งโดนกรณีนี้ยิ่งต้องแสดงความเสียสละ เพราะตำแหน่ง รมว.คลังเป็นตำแหน่งที่ต้องไร้มลทิน เพราะมีตำแหน่งสำคัญที่รองจากนายกรัฐมนตรี นพ.สุรพงษ์ควรให้เกียรติประชาชน ให้ โอกาสเศรษฐกิจและประเทศด้วยการลาออกจากตำแหน่งอย่างเต็มภาคภูมิ ยังมีบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้อยู่ คงไม่ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติรัฐมนตรี ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นรัฐมนตรีที่มีความเคลือบแคลงใจของสังคม

ที่มาhttp://www.thairath.co.th/news.php?section=politics&content=99034

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

กฏของฝ่ายค้านคือ รุสึกจะมีใบบทเรียนน่ะเรื่องที่ว่า ฝ่ายค้าน จะต้องหาทุกวิธีทางเพื่อค้านรัฐบาล พี่มากซ์ทำถูกแล้วครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมคิดว่าการลาออกของคุณสุวิทย์ นั้นอาจจะเป็นการหลบหนความผิดทางการเมืองครับ หะหะ


ท่านคิดยังไรกับการเมืองในปัจจุบันนี้

ป้ายกำกับ